TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “MEMORY IN THE LETTER” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
รีวิวซีรีส์ ทรงจำในอักษร(2024) Memory In The Letter ทาง 9 MCOT ย้อนหลังทาง WeTV
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทาง 9MCOT เรื่อง ทรงจำในอักษร Memory In The Letter มีทั้งหมด 12 ตอน ตอนละ 20 นาที มาวันแรกวันที่ 6 เมษายน 2024 ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทาง 9MCOT ย้อนหลังทาง WeTV นำแสดงโดย ปาร์คกี้ ณพวิทย์ เทวพันธ์กุล รับบท ทรงจำ และเบค พิชญุตม์ ชัชวาลย์สมบัติ รับบท อักษรเป็นเรื่องราวของอักษรที่เพิ่งย้ายมาอยู่หอใหม่ซึ่งเจ้าของห้องเก่าได้ทิ้งกระจกไว้ให้บานหนึ่ง ตอนแรกอักษรก็เห็นเป็นกระจกเงาธรรมดาๆ จึงไม่ได้คิดอะไร ในคืนนั้นเองอยู่ๆ ห้องของเขาก็สั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหวแล้วก็มีลูกไฟจากนอกหน้าต่างตกลงมาจะชนห้องอักษร อักษรจึงก้มหลบจากนั้นพอเขาเงยหน้ามาอีกทีกลับเห็นกระจกสะท้อนภาพห้องใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ห้องเขา แล้วอยู่ๆเขาก็เห็นคนอีกคนในกระจก อักษรตกใจมากจึงถามว่านายเป็นใคร คนในกระจกก็ตอบว่าเขาชื่อทรงจำแล้วอยู่ๆ ทรงจำก็จำได้ว่าเขามีสอบจึงรีบออกจากห้องไป อักษรที่ก็ต้องไปเรียนก็ได้ออกจากห้องไปเหมือนกัน พอตกเย็นอักษรก็เห็นทรงจำในกระจกอีก ทั้งคู่คุยกันไปจนเริ่มจะสนิทกัน แม้ว่าทั้งคู่จะอยู่คนละโลกแต่ก็คอยให้กำลังใจกันคอยเป็นห่วงเป็นใยกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องไปดูกันอักษรทะเลาะกับพ่อเพราะเขานั้นอยากเรียนวรรณกรรมเหมือนแม่ของเขา แต่พ่อไม่อยากให้เขาเรียนเขาจึงโกหกพ่อว่าตนเรียนวิศวะ พ่อเลยไล่เขาออกจากบ้าน เขาเป็นคนน่ารัก สดใส แอบขี้อายหน่อยๆ พอเขาเจอทรงจำในอีกฟากของกระจกก็ไปหาข้อมูลพบว่าโลกของทรงจำอาจเป็นอีกโลกหนึ่งที่เรียกว่าโลกคู่ขนาน เขาเป็นคนขี้เล่น แถมยังขี้แกล้งนิดๆ ชอบดูหนัง อ่านนิยาย มีความฝันอยากเป็นนักเขียน นักแสดงแสดงได้ดูเป็นคนขี้อาย แต่น่ารักทรงจำเป็นคนอีกฟากหนึ่งของกระจกเงาในห้องอักษร โลกของทรงจำนั้นไม่เหมือนกับโลกที่อักษรอยู่ การตกแต่งห้องก็ดูไม่เหมือนห้องอักษรเหมือนเป็นคนละยุค การนับปีพ.ศ. ก็ไม่เหมือนกัน ดูเป็นเด็กๆทั้งยังบอกว่าจะยกอักษรเป็นพี่จึงเรียกอักษรว่าพี่ บางทีก็แอบเขินอักษร ดูเป็นคนน่ารัก ทั้งยังเป็นคนที่ชอบฟังเพลง ถึงจะพึ่งรู้จักอักษรแต่กลับดูเป็นห่วงเป็นใยอักษรมาก นักแสดงแสดงได้ดูเด็ก น่ารัก เสื้อผ้าทำออกมาได้เหมาะกับบริบทเนื้อเรื่อง ชุดอักษรจะเป็นแนวสบาย แต่ก็ดูดี มีความทันสมัย วัยรุ่น ชุดทรงจำจะดูออกแนววินเทจๆ หน่อย เป็นลุคคุณชายสมัยก่อน ดูดีสุดๆ ฉากมีความแตกต่างกันระหว่าง 2 โลก ห้องของทั้งสองคนจะดูต่างกันตามบริบทของแต่ละคน มีฉากทั้งห้องพัก ในมหาวิทยาลัย และอื่นๆ ที่ก็ดูเข้ากับมูสและโทนของเรื่องพล็อตเรื่องคือเงาในกระจกคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ อักษรได้พบกับทรงจำครั้งแรกในวันที่เขาย้ายมาอยู่หอพักแห่งใหม่ทรงจำไม่ใช่ทั้งเจ้าของหอหรือรูมเมทคนใหม่ หากแต่เป็นใครไม่รู้ที่อาศัยอยู่อีกฟากของกระจกเงา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆเติบโต และมันคงไม่เป็นปัญหาถ้าหากจู่ๆไม่มีนิยายออนไลน์ที่เขียนเรื่องราวของอักษรและทรงจำลงในเว็บไซต์ซึ่งและแน่นอนว่าทุกเหตุการณ์ในนั้นล้วนเป็นเรื่องจริง ใครบางคนที่เขียนนิยายเรื่องนั้น อาจเป็นกุญแจเดียวที่จะทำลายกำแพงระหว่างทรงจำและอักษรได้อยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวแฟนตาซีโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมยังชวนจิ้นฟินสุดๆ เดินเรื่องได้เรื่อยๆ ไม่รวดเร็ว แต่ทำให้เราได้เห็นโมเมนต์น่ารักๆ ของพระเอกกับนายเอก เป็นเรื่องที่โรแมนติกและน่ารักมาก เคมีนักแสดงคือดีมาก อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: StudioSayYesซีรีส์วายที่กำลังออนแอร์ช่วงนี้รีวิวซีรีส์ 23.5 องศาที่โลกเอียง(2024) 23.5 When the Earth Spinning Around ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง Netflix #มิ้ลค์เลิฟ #มีนาน่าดูรีวิวซีรีส์ คุณได้ไปต่อ(2024) To Be Continued ทาง ช่อง 3 ย้อนหลังทาง Netflix รีวิวซีรีส์ ปลื้มคนโปรด(2024) A Secretly Love ทาง 3HD ย้อนหลังทาง WeTV #ซีรีส์ดีบอกต่อรีวิวซีรีส์ Two Worlds โลกสองใบใจดวงเดียว(2024) ทาง iQIYI
Faifun • 27 เม.ย. 67
อ่าน
[แนะนำ/รีวิว] 'ทรงจำในอักษร' (Memory in the letter) ซีรีส์ BL แฟนตาซีคุณภาพจากค่ายน้องใหม่ที่อยากให้ถูกค้นพบ...เรื่องราวของคนสองโลกที่ถูกคั่นกลางด้วยกระจก? [จบแล้ว]
สวัสดีทุกท่านที่ให้ความสนใจซีรีส์เรื่อง ‘ทรงจำในอักษร’ นะคะ สำหรับบทความนี้จะเป็นการแนะนำผสมการรีวิวซีรีส์แนวแฟนตาซีน้ำดีของค่ายน้องใหม่ที่อยากให้ถูกค้นพบเยอะๆ ให้สมกับพลอตเรื่องที่ทำถึงมาก ....ซีรีส์มีแค่ 6 ตอน ความยาวตอนละ 21 นาทีเหมาะกับคนมีเวลาดูน้อยค่ะ ทรงจำในอักษร (Memory in the letter) เป็นซีรีส์ที่สร้างจากนิยายเว็บชื่อเดียวกัน โดยนักเขียนนามปากกา ‘Hungry bird’ นำแสดงโดย ปาร์คกี้ ณพวิทย์ เทวพันธ์กุล, เบค พิชญุตม์ ชัชวาลย์สมบัติ และ แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง 9MCOT และสามารถรับชมย้อนหลังได้ทางแอปพลิเคชั่น WeTV ก่อนเข้าสู่เนื้อหาของการรีวิวต้องบอกก่อนว่าครีเอเตอร์ได้ยินชื่อซีรีส์เรื่องนี้มาจากตอนหาข้อมูลเพื่อเขียนบทความแนะนำซีรีส์มาใหม่ประจำเดือนเมษายน โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบซีรีส์แนวแฟนตาซีเท่าไหร่นักเพราะรู้สึกว่าค่อนข้างไกลตัวและอินกับเนื้อเรื่องได้ยาก แต่พอได้เริ่มดูตัวอย่างครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่าเนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ เพราะแม้จะเป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีแต่กลับไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด อีกทั้งพลอตเรื่องยังดึงดูดให้ย้อนนึกถึงละครในวัยเด็กที่เคยดูอย่างเรื่องทวิภพที่มีกระจกเป็นตัวกั้นกลางระหว่างสองโลก แต่ทรงจำในอักษรจะให้กลิ่นอายความเป็นคลาสสิคและช่วง 90 ทรงจำในอักษร เป็นซีรีส์ที่ผลิตโดยบริษัท สตูดิโอ เซย์-เยส (Studio Say-Yes) บริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งผลิตซีรีส์เป็นเรื่องแรก ผ่านฝีมือการกำกับของคุณวศิน สมัญญากุล ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูใน official X ของค่ายก็ได้รู้ว่ามีการเปิดโปรเจคซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2564 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้วก่อนกระบวนการทุกอย่างจะเสร็จสิ้นและสามารถออกอากาศให้ได้รับชมเป็นตอนแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ผ่านความทุ่มเทของทีมงานและนักแสดง ตั้งแต่ขั้นตอนของการออดิชั่นค้นหานักแสดง การเวิร์คช้อปจนกระทั่งการถ่ายทำที่ถึงแม้จะเป็นผลงานจากค่ายเล็ก แต่คุณภาพของงานควรค่าแก่การถูกค้นพบผ่านการพิสูจน์จากครีเอเตอร์และผู้ชมหลายท่านที่ได้รับชมซีรีส์เรื่องนี้ และนี่จึงกลายเป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา โดยหวังว่าอย่างน้อยจะสามารถช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีคนเปิดใจรับชมซีรีส์เรื่องนี้ไม่มากก็น้อยทรงจำในอักษรเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร? (มีเนื้อหาสปอยแต่ยังไงก็ไม่ได้อรรถรสเท่ากับไปดูเองแน่นอนค่ะ) ทรงจำในอักษรบอกเล่าเรื่องราวของ ‘อักษร’ (รับบทโดย เบค พิชญุตม์) นักศึกษาสาขาวรรณกรรมที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนเหมือนกับแม่ที่จากไป แต่ความฝันนี้กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้เป็นพ่อจนเป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะที่รุนแรง อักษรตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คนเดียวในหอพักแห่งหนึ่งที่เจ้าของห้องคนเก่าเพิ่งย้ายออกไปโดยทิ้งกระจกบานเก่าไว้บานหนึ่งในห้อง การย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ของอักษรเป็นไปอย่างเรียบร้อย ก่อนที่ในคืนนั้นจะเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่พิเศษมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อักษรได้พบกับ ‘ทรงจำ’ (รับบทโดย ปาร์คกี้ ณพวิทย์) เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าแต่ที่สำคัญคือเด็กคนนั้นกลับปรากฏตัวอยู่ในกระจก และเมื่อพูดคุยทำความรู้จักกันถึงได้รู้ว่าพวกเขาอยู่กันคนละจักรวาล โดยมีเพียงแผ่นกระจกบางๆเท่านั้นที่คั่นกลางระหว่างพวกเขาไว้...กระจกที่สามารถมองเห็นอีกฝ่าย สามารถได้ยินเสียงจากอีกฝั่ง แต่ไม่อาจสัมผัสกันและกันได้ ความสัมพันธ์ของคนจากสองจักรวาลค่อยๆเติบโตขึ้นจากคนแปลกหน้าสู่ความสัมพันธ์ที่เกือบจะมีชื่อเรียก ทั้งคู่แลกเปลี่ยนเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ในแต่ละวันที่ได้พบเจอผ่านการพูดคุยหน้ากระจก แม้กระทั่งการแลกเปลี่ยนความชอบและสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ได้เคยได้พบเห็นมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งอักษรได้บังเอิญค้นพบนิยายในเว็บไซต์ที่มีชื่อเรื่องว่า ‘ทรงจำในอักษร’ โดยที่เนื้อหาด้านในตรงกับชีวิตของเขาและทรงจำทุกอย่างทั้งที่มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่รู้ อักษรจึงคิดว่านักเขียนคนนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเขาและทรงจำได้ หรือยิ่งไปกว่านั้นเขาคนนั้นอาจช่วยให้พวกเขาสามารถมาพบกันได้ในจักรวาลเดียวกัน แต่กลับกลายเป็นยิ่งสืบหาเท่าไหร่ อักษรก็ยิ่งพบแต่ปริศนาที่ยากจะหาคำตอบ ไหนจะการปรากฏตัวของ 'เคียว' (รับบทโดย แคน อติรุจ) ชายหนุ่มผู้มีบุคลิกสุภาพและดูอบอุ่นใจดีแต่ซ่อนความลึกลับบางอย่างไว้ ในขณะที่อักษรพยายามตามหาเจ้าของนิยายเรื่องนี้ ฝ่ายทรงจำที่ความรู้สึกเพิ่มพูนจนไม่อาจทนสัมผัสตัวอีกฝ่ายผ่านกระจกได้อีกต่อไป ตัดสินใจเสี่ยงชีวิตในช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งที่สองเพื่อข้ามจักรวาลไปหาคนที่เขาปรารถนาจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกเดียวกัน… ทรงจำจะสามารถข้ามจักรวาลไปหาอักษรได้หรือไม่ แล้วทรงจำเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริงหรือเป็นเพียงคนในจินตนาการของอักษร และบทสรุปสุดท้ายทั้งหมดจะเป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแค่ในนิยายหรือไม่ ร่วมลุ้นและหาคำตอบไปพร้อมกันใน ‘ทรงจำในอักษร’ แนะนำตัวละครหลัก อักษร รับบทโดย เบค พิชญุตม์ ชัชวาลย์สมบัติ อักษร นักศึกษาสาขาวรรณกรรมที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียนเหมือนแม่ แต่ถูกพ่อคัดค้านเพราะเหตุผลบางอย่าง ทั้งคู่มีปากเสียงกันรุนแรงจนทำให้อักษรตัดสินใจออกไปใช้ชีวิตคนเดียวและตัดขาดจากพ่อ ลักษณะนิสัยของอักษรเป็นคนที่ไม่ซับซ้อน รู้สึกยังไงก็พูดและแสดงออกไปแบบนั้น เป็นตัวละครที่มีความชัดเจนทางความคิด ด้วยความที่เนื้อเรื่องเน้นหนักไปที่เส้นเรื่องหลักในการไขปมปริศนา นักเขียนเลยอาจจะเลือกไม่ทำให้ตัวละครมีความซับซ้อนทางความคิดอีกเพราะไม่อย่างนั้นคนที่น่าสงสารที่สุดคงจะเป็นคนดู และอีกหนึ่งอย่างที่ชอบในตัวละครอักษรคือเป็นตัวละครที่ทำให้ใครหลายคนนึกถึงตัวเองในช่วงสมัยเรียนที่มั่นใจว่าตัวเองรักในสิ่งที่ทำอยู่ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันใช่ทางที่ถูกต้องแล้วจริงๆใช่หรือเปล่า ซึ่งในความเป็นแฟนตาซีของซีรีส์ แบล็คกราวด์ ความรู้สึกและความคิดของตัวละครก็ยังเป็นสิ่งที่คนดูสามารถเข้าถึงได้ และบอกได้เลยว่าสกิลการขายน้ำอ้อยของอักษรเว่อมากค่ะ เปิดตำนานการขายอ้อยแบบบลูทูธที่ทำเอาทรงจำแทบจะเครซี่ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทรงจำถึงอยากข้ามโลกมาหาอักษรมากขนาดนั้น เพราะโดนพี่เขาตกเป็นรอบที่ล้านนี่เอง ทรงจำ รับบทโดย ปาร์คกี้ ณพวิทย์ เทวพันธ์กุล ทรงจำ เด็กหนุ่มลึกลับในกระจกที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับฝนดาวตกและอาศัยอยู่คนละจักรวาลกับอักษร…ทรงจำอายุน้อยกว่าอักษรทำให้ตัวละครมีความเป็นเด็ก เวลาไม่ถูกใจอะไรก็เหมือนเด็กขี้น้อยใจ บางครั้งก็ชอบอ้อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ ภูมิหลังของทรงจำไม่ค่อยถูกเล่าถึงในเรื่อง ลักษณะนิสัยของทรงจำจะคล้ายกับอักษรแต่มีความเป็นเด็กมากกว่า เป็นตัวละครที่มีความคิดไม่ซับซ้อนแต่สิ่งที่ลึกลับคือที่มาที่ไปของตัวละคร ในส่วนของความรู้สึกทรงจำค่อนข้างแสดงออกให้อักษรเห็นชัดเจนว่าตัวเองรู้สึกยังไง คิดยังไงกับอีกฝ่าย ยกเว้นแค่ตอนงอนพี่และรอให้พี่มาง้อที่แกล้งๆทำให้พี่รู้เอง จนบางทีก็ทั้งหมั่นไส้ทั้งเอ็นดู เคียว รับบทโดย แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ เคียว ลูกค้าประจำในร้านหนังสือที่อักษรทำงานอยู่ เคียวหรือพี่เคียวเป็นคนที่มีบุคลิกสุภาพ ใจดี ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นที่มีคุณสมบัติของแฟนสูงมาก แต่บรรยากาศรอบตัวมีแต่สิ่งที่ชวนสงสัยให้คนดูตั้งคำถามว่าจริงๆแล้วเคียวคือใครกันแน่ ทำไมถึงปรากฏตัวทุกครั้งที่อักษรต้องการความช่วยเหลือราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่พี่เคียวมักจะให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความบังเอิญทุกครั้ง ถ้าถามว่าใครที่น่าสงสัยที่สุดในเรื่อง คำตอบคือพี่เคียวนี่แหละค่ะ คนปกติที่ไหนจะทำตัวน่าสงสัยได้ทุกฉากที่ออก ความน่าสนใจของซีรีส์ ‘ทรงจำในอักษร’ ในมุมของครีเอเตอร์ พูดถึงความสนุกและจุดน่าสนใจแรกของเรื่อง คือการที่คนดูไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปได้ ซึ่งจากประสบการณ์การดูซีรีส์แนว BL มาหลายประเทศมากกว่า 10 ปี บอกได้เลยว่าทรงจำในอักษรเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ดูแล้วไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ทุกอย่างดำเนินไปด้วยปริศนาและการตั้งข้อสงสัยประหนึ่งคนดูคืออักษรที่ต้องหาคำตอบให้เจอ ขณะเดียวกันก็ต้องลุ้นไปด้วยว่าทั้งทรงจำและอักษรจะมาเจอกันได้ยังไง แล้วทั้งหมดมันคือเรื่องจริงหรือเป็นแค่นิยายมาตั้งแต่ต้น สรุปคือสนุกเพราะเดาอะไรไม่ถูกตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง จุดที่สอง : ความสัมพันธ์ของตัวละครหลักและการพัฒนาความรู้สึกผ่านกระจก ทรงจำเป็นตัวละครที่ไม่มีที่มาที่ไป เป็นแค่คนในกระจกที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับฝนดาวตกในวันที่อักษรย้ายเข้ามาในห้องพัก โดยที่ทั้งตัวละครอักษรและคนดูไม่สามารถแน่ใจได้เลยด้วยซ้ำว่าทรงจำเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ใช่แค่จินตนาการที่อักษรสร้างขึ้นมาเพื่อเยียวยาตัวเองจากความผิดหวังและเสียใจ แต่แม้จะยังหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนคือทรงจำเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เข้ามาในชีวิตของอักษร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาผ่านบานกระจกที่คั่นระหว่างกลาง อยากสัมผัสตัวกันก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่คุย สบตาและแบ่งปันเรื่องราวต่างๆด้วยกัน มันเป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาแบบโรแมนติกผสมกลิ่นอายของความดราม่าที่อยู่ใกล้แค่นิดเดียวแต่ไม่สามารถทำในสิ่งที่ปรารถนาได้ และที่สำคัญคือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอีกฝ่ายมีตัวตนอยู่จริง จุดที่สาม : ตัวละครที่มีแต่ปริศนา ตัวละครในเรื่องที่ไม่ใช่ทรงจำและอักษร ทุกคนดูมีบางอย่างปิดบัง ไม่ว่าจะเป็นพี่เคียวที่เหมือนจะต้องการมาช่วยอักษร แต่ในขณะเดียวกันก็น่าระแวงว่าสรุปแล้วเป็นใครกันแน่ จะใช่ทรงจำเวอร์ชั่นข้ามโลกมาหรือเปล่า หรือเป็นอักษรที่ย้อนเวลากลับมาแก้ไขเรื่องราวบางอย่าง และนอกจากนี้ยังมีคนที่น่าสงสัยอีกหลายคน อาทิ คนที่อัปนิยายลงเว็บไซต์…หญิงในชุดฮู้ดปริศนา…คุณลุงเจ้าของร้านแผ่นเสียงและอดีตเจ้าของโรงพิมพ์สโรชา…เพื่อนของแม่ที่พ่ออักษรพูดถึง…และเจ้าของนามปากกา ‘ลิขิต’ ใครเดาถูกว่าแต่ละตัวละครมีความเชื่อมโยงกับเรื่องของทรงจำและอักษรยังไง ข้าน้อยขอคารวะค่ะ เพราะทางนี้ดูไปก็ขมวดคิ้วไป แต่สนุกมากกกกก และเพราะปริศนานี่แหละค่ะที่อยากให้แต่ละตอนมีความยาวสัก 40 นาที และออนไปสัก 8-10 ตอนกำลังดีเลยค่ะ จุดที่สี่ : ฉาก ฉากที่ยกให้เป็นเดอะเบสคือทุกฉากที่มีกระจกต้นเรื่องค่ะ…เพราะกระจกคือสิ่งเดียวที่ทำให้ทรงจำและอักษรได้ใกล้ชิดกัน และฉากเต้นรำหน้ากระจกคือที่สุด บรรยากาศ เพลงประกอบทำถึงมาก (ใครอยากรู้ว่าทำถึงแค่ไหนต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ) และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับฉาก คือการตกแต่งห้องของทรงจำกับอักษรที่สามารถทำออกมาได้สมจริงมาก ทั้งเฟอร์นิเจอร์ บรรยากาศของสองฝั่งที่แม้จะคั่นกลางด้วยกระจกบานเดียวแต่มีความแตกต่างชัดเจนว่าเป็นคนละที่กัน รวมถึงพวกโทนสีภาพของซีรีส์ก็ยิ่งเสริมให้เชื่อได้ง่ายๆเลยว่าตัวละครอยู่คนละจักรวาลกัน ถือว่าทีมงานที่รับผิดชอบในส่วนนี้ทำออกมาได้ดีมากๆค่ะ จุดที่ห้า : เพลงประกอบซีรีส์ / ตีมเพลง และบรรยากาศ เพลงประกอบซีรีส์อย่างเพลง ‘ถึงตรงที่เธอ’ เป็นเพลงประกอบซีรีส์ที่ตรงกับเนื้อเรื่องแบบเป๊ะๆ ฟังแล้วสามารถนึกภาพตามเป็นฉากๆได้เลยค่ะ และอีกเพลงที่เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่นาน ‘ใช่รักหรือเปล่า’ ก็เป็นเพลงที่เป็นตัวแทนความรู้สึกของอักษร นอกจากเพลงประกอบซีรีส์แล้วตีมเพลงและดนตรีที่ใช้ประกอบในเรื่องก็ช่วยเสริมให้บรรยากาศระหว่างทรงจำและอักษรเต็มไปด้วยความโรแมนติกซ่อนความดราม่า จนบางครั้งยังนึกสงสัยว่าทีมงานไปหาเพลงมาจากไหนนักหนาถึงเลือกมาได้เข้ากับบรรยากาศเสียเหลือเกิน ใครชื่นชอบกลิ่นอายแบบคลาสสิคและยุค 90 ต้องไม่พลาดค่ะ แต่ต่อให้บอกแบบนี้คงไม่สู้ให้ทุกคนไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง เพราะมันดีมากจริงๆ คุณภาพ บรรยากาศของเรื่องเทียบเท่ากับหนังในโรงได้เลย จุดที่หก : นักแสดง สำหรับนักแสดงขอพูดถึง 3 ตัวละครหลัก ทรงจำ อักษร และ เคียวนะคะ อย่างพี่เคียวหลายคนคงคุ้นหน้าค่าตากันอยู่แล้วซึ่งคุณแคนก็เป็นพี่เคียวได้ตรงกับคาแรคเตอร์ตัวละครจริงๆ เล่นยังไงให้ดูอบอุ่นแต่ลึกลับได้ทุกซีนขนาดนี้ ส่วนนักแสดงนำอย่างปาร์คกี้และเบคเชื่อได้เลยว่าหลายคนคงไม่คุ้นหน้ากัน เพราะสำหรับปาร์คกี้ซีรีส์เรื่องนี้นับว่าเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรก ในขณะที่เบคแม้จะผ่านการแสดงมาบ้างแล้วแต่ในเรื่องนี้ก็เป็นการรับบทนำครั้งแรกของเขา ซึ่งถ้าหากใครเลือกไม่ดูซีรีส์เรื่องนี้เพราะพระนายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ อยากให้ลองเปิดใจดูตอนแรกสักตอนก่อนนะคะ เพราะแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ใช่นักแสดงที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการมามากมาย แต่รับประกันว่าองค์ประกอบทุกอย่างในเรื่องจะไม่ทำให้คนดูผิดหวังกับเรื่องราวของทรงจำและอักษรที่ปาร์คกี้กับเบคตั้งใจถ่ายทอดออกมาอย่างแน่นอนค่ะ สุดท้ายนี้ข้อความที่พิมพ์มายืดยาวทั้งหมดก็เพื่ออยากให้ทุกท่านเปิดใจให้กับซีรีส์เรื่องนี้ แม้ทรงจำในอักษรจะเป็นซีรีส์ที่ผลิตโดยค่ายเล็กๆ โปรดักส์ชั่นไม่ได้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับค่ายอื่น หรือนักแสดงที่มากประสบการณ์ในสายงานการแสดง แต่ทุกคนเต็มที่และตั้งใจกับซีรีส์เรื่องนี้มาก และตัวบทซีรีส์ที่มีความเป็นพลอตใหม่เป็นความแฟนตาซีผสมโรแมนติกดราม่าจึงอยากให้ทุกท่านให้โอกาสค่ายและน้องๆได้พัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเองต่อไปด้วยการสนับสนุนซีรีส์เรื่องนี้ด้วยนะคะ และหวังว่า ‘ทรงจำในอักษร’ จะกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เข้าไปอยู่ในลิสต์ซีรีส์เรื่องโปรดของใครหลายคนนะคะ รายละเอียดซีรีส์ทรงจำในอักษร (Memory in the letter)ประเภท : แฟนตาซี, โรแมนติก, ดราม่าผู้กำกับ : วศิน สมัญญากุลนักแสดงนำ : ปาร์คกี้ ณพวิทย์ เทวพันธ์กุล รับบท ทรงจำ , เบค พิชญุตม์ ชัชวาลย์สมบัติ รับบท อักษร, แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ รับบท เคียว , ดิว ภัทรพล กันตพจน์ รับบท พ่อของอักษร, แพร ณัฏฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์ รับบท แม่ของอักษรจำนวนตอน : จำนวน 6 ตอน ความยาวตอนละ 21 นาทีระยะเวลาการออกอากาศ : วันที่ 6 เมษายน - 11พฤษภาคม 2567สามารถรับชมได้ทาง 9MCOT และรับชมย้อนหลังได้ที่แอปพลิเคชั่น WeTVเครดิตภาพประกอบบทความขอบคุณภาพปกจาก Studio Say-Yesขอบคุณภาพประกอบจาก Studio Say-Yes ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 / ภาพประกอบที่ 8 / ภาพประกอบที่ 11 / ภาพประกอบที่ 12ขอบคุณภาพประกอบจาก heavenly_pick ภาพประกอบที่ 9และ10เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
STARK007 • 30 พ.ค. 67
อ่าน
รีวิว The Letter For the King (ไม่สปอยล์)
The Letter for the King (สารลับถึงราชา) รีวิวซีรีส์จาก Netflix (Witcher เเบบเด็ก ๆ ) (ไม่สปอยล์)ความยาว: 45 นาทีต่อตอน (6 ตอน)ประเภท: เเฟนตาซี/ ผจญภัยโชว์รันเนอร์: วิลเลี่ยม เดวี่ส์The Letter for the King เป็นหนังสือนิยายที่เเต่งขึ้นโดยนักเขียนชาวดัตช์ (ประเทศเนเธอร์แลนด์) อย่าง Tonke Dragt ในปี 1962 เเละตอนนี้ก็กลายมาเป็นซีรีส์ที่ฉายต่อทาง Netflix เรียบร้อยเเล้วเรื่องย่อ: เมื่อหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจะเป็นอัศวินได้รับสารปริศนา ที่ต้องนำไปส่งให้กับพระราชาเเห่งอาณาจักรหนึ่งรีวิว: กล้าพูดเลยว่านี่คือ The Witcher ฉบับที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีเลยคับ เห็นกระเเสเมืองนอกจะไปทางลบค่อนข้างมากครับ เเต่เเอดมองว่าตัวซีรีส์ตลอดทั้งซีซั่นสนุกใช้ได้เลย ดูเพลินเเละไม่ค่อยมีช่วงให้น่าเบื่อ ส่วนสองนักเเสดงนำถือว่าเอาอยู่ครับ พระนางเคมีเข้ากันได้ดีเลย (นางเอกเเสดงโดยลูกสาวเเท้ ๆ ของเเอนดี้ เซอร์คิส) สิ่งที่เป็นปัญหาเลยคือบทที่เดาตอนจบได้ มุกที่ยังไม่ไหลลื่นเท่าไหร่เเละความสุดของเรื่องราวที่ยังไปไม่ถึงฝัน สิ่งที่ขอยกให้เป็นที่ 1 เลยคืองานภาพครับ ที่ยกกองไปถ่ายที่นิวซีแลนด์ที่เดียวกับไตรภาค Lord of the Rings เเต่ก็ไม่ได้ทุกฉาก เเต่หากใครกำลังหาซีรีส์ผจญภัยที่พร้อมจะดูกับครอบครัวขอเเนะนำเรื่องนี้ครับ เเม้จะไม่ค่อยมีอะไรสุดมาก เเต่ถือว่าดูเอาความอลังการเเละความเพลินของการผจญภัยของตัวละครนี้ได้อยู่ครับ +:- นักเเสดงเคมีเข้ากันได้ดี- เล่าเพลินตั้งเเต่ต้นยันจบ ตอนเเรกจะดูอืด ๆ นิดหน่อย- ดนตรีประกอบทำได้ดี- งานภาพสวยมาก- ไม่ได้รุนเเรงมาก ดูได้ทั้งครอบครัว -:- ซีจีทำได้ลอยมาก- มีบางช่วงที่เดาพอได้- มีบางตัวละครที่เเสดงได้เเข็ง ๆ ไปนิด- ความสุดของเรื่องราวที่ยังไปไม่สุด(ซีรีส์นี้เหมาะสำหรับการดูเป็นครอบครัว เเต่จะมีฉากบางฉากที่ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนอยู่บ้าง ในฉากเหล่านั้นผู้ใหญ่ควรให้คำเเนะนำเเก่เด็กนะครับ)ตอนนี้ทางเน็ตฟลิกซ์ยังไม่มีการประกาศสร้างภาคต่อ เเต่ส่วนตัวเเล้วมองว่าควรจะทำตจบในซีซั่นเดียวดีกว่า มันจบดีของมันอยู่เเล้ว อย่าไปลากยาวให้ต่อเลยสำหรับรูบี้ เซอร์คิสที่เป็นนางเอกของเรื่อง บอกเลยว่าอนาคตไกลเเน่นอนครับ เเละพระเอกอย่างอเมียร์ วิลสันก็มีเสน่ห์ที่ดูเท่ห์ด้วยครับ เอาไป 7.5/10 (คะเเนนเฉลี่ย) เขียนโดย เเอดมินจากเพจหมาโรงหนัง หรือชื่ออังกฤษ Doggywatch ครับ เครดิตภาพ จาก Official Trailer บน Youtube
Doggywatch (หมาโรงหนัง) • 8 พ.ค. 63
อ่าน
รีวิวซีรีส์ The Letter for the King "สารลับถึงราชา"
The Letter for the King “สารลับถึงราชา” เป็นซีรีส์จากทางเน็ตฟลิกซ์ที่สร้างมาจากนิยายขายดีของตงเก้ ดรากต์ ตัวซีรีส์จะเป็นซีรีส์แนวผจญภัย แฟนตาซี โดยมีความน่าสนใจตรงที่เป็นซีรีส์แนวย้อนยุคเกี่ยวกับเรื่องราวของเหล่าอัศวินฝึกหัดที่ต้องนำสารลับไปส่งให้ถึงมือของราชา และตลอดการเดินทางต้องหนีเอาชีวิตรอดจากภยันตรายนับไม่ถ้วน สารลับถึงราชาจะเป็นเรื่องราวของทิวรี่ (รับบทโดย Amir Wilson) อัศวินฝึกหัดวัย 15 ปี ที่มีฝีมือไม่ได้เรื่องรวมถึงยังอ่อนแอและขี้ขลาดแต่เขาก็มีจิตใจที่อ่อนโยนและเขาก็ยังมีความสามารถพิเศษที่ซ่อนอยู่ เรื่องราวของซีรีส์เกิดขึ้นเมื่อทิวรี่กำลังเข้ารับการทดสอบเพื่อที่จะเป็นอัศวินเต็มตัว แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในช่วงบททดสอบสุดท้าย ทิวรี่ได้พบกับอัศวินดำโล่ขาวที่กำลังจะตาย อัศวินดำก็เลยขอร้องให้ทิวรี่นำสารลับที่เขาได้มาไปส่งให้กับราชาตัวเขาเองคงไม่รอดแน่เพราะอาการหนักมากแถมยังมีกองทหารอัศวินสังกัดเรดไรเดอร์ (อัศวินแดง) ตามล่ามาติดๆ ด้วยความที่จวนตัวทิวรี่ก็รับสารลับนั้นมาและเริ่มออกเดินทาง มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้ภาพจาก Official Trailer ทาง Youtube ช่อง Netflix Thailand หลังจากที่ผมดูซีรีส์เรื่องนี้จบผมมองว่าซีรีส์เรื่องนี้นอกจากที่เป็นซีรีส์อัศวินแนวย้อนยุคแล้วก็ยังมีหลายจุดหลายประเด็นที่น่าสนใจเลย ขอเริ่มด้วยประเด็นการผจญภัยของทิวรี่ ผมมองว่ามันสนุกใช้ได้เลยกับการเดินทางและต้องพบเจอเรื่องราวต่างๆ ทั้งการหนีการไล่ล่าของกลุ่มเรดไรเดอร์ที่จะทำให้เราต้องคอยเอาใจช่วยทิวรี่อยู่ตลอดทั้งเรื่อง และนอกจากกลุ่มเรดไรเดอร์ก็ยังมีกลุ่มอัศวินฝึกหัดที่เข้าร่วมทดสอบพร้อมทิวรี่ออกมาไล่ล่าเขาอีกด้วย (เนื่องจากการเข้าใจผิดเรื่องการเสียชีวิตของอัศวินดำ พวกกลุ่มอัศวินฝึกหัดก็เลยได้รับคำสั่งให้ไล่ล่าทิวรี่) ประเด็นของเหล่าอัศวินฝึกหัดจะไม่ใช่แค่เพียงการไล่ล่าเพียงอย่างเดียว แต่จะมีเรื่องราวของมิตรภาพเข้ามาเกี่ยวด้วยทำให้ซีรีส์มีทั้งฉากซึ้งและฉากประทับใจภาพจาก Official Trailer ทาง Youtube ช่อง Netflix Thailand แต่นอกจากโดนล่าแล้วยังมีเรื่องราวที่สุดแสนแฟนตาซีด้วย เพราะในซีรีส์เกรินหัวมาให้เรารู้ว่าทิวรี่เป็นผู้ที่พลังพิเศษซ่อนอยู่ (แต่ผมไม่ขอสปอยล์ว่ามันพิเศษอย่างไร) และไม่ใช่แค่ทิวรี่ที่มีพลังพิเศษ ตัวร้ายของเนื้อเรื่องก็มีพลังพิเศษเช่นกันยิ่งทำให้เนื้อเรื่องยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก และเรื่องปมของทิวรี่ที่ตัวซีรีส์เปิดมาให้เราสงสัยว่าเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่ก็เป็นอะไรที่ชวนติดตามมากภาพจาก Official Trailer ทาง Youtube ช่อง Netflix Thailand และที่ผมไม่คิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีก็คือฉากโรแมนติก เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากที่ซีรีส์มีอะไรหวานๆ มาให้เราดู แต่จะเป็นโรแมนติกเล็กๆ ที่ไม่ได้หวานมาก และที่เซอร์ไพรส์เข้าไปอีกก็คือตัวเนื้อเรื่องมีการหักมุมที่ผมเองยังคาดไม่ถึงเลย ตอนที่ดูก็แอบตกใจอยู่เหมือนกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นภาพจาก Official Trailer ทาง Youtube ช่อง Netflix Thailand โดยรวมแล้วผมมองว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่สนุกใช้ได้เลย เนื้อเรื่องก็ดูได้ไม่ยากเข้าใจง่าย รวมถึงยังเป็นซีรีส์ที่เดินเรื่องได้ไหลลื่นดีด้วย ถึงแม้จะมีแอบช้านิดๆ แต่ก็ดูได้เพลินๆ แถมยังมีแค่ 6 ตอน ผมดูรวดไม่กี่ชั่วโมงก็จบแล้ว สำหรับเพื่อนๆ ผู้อ่านที่สนใจซีรีส์เรื่องนี้ก็เข้าไปรับชมกันได้เลยทางเน็ตฟลิกซ์ และที่สำคัญสามารถรับชมเน็ตฟลิกซ์ผ่านกล่อง True ID ได้แล้ว ไปร่วมกันเอาใจช่วยทิวรี่ถือสารลับไปส่งให้ราชากันได้เลยปกภาพจาก Official Trailer ทาง Youtube ช่อง Netflix Thailand
Neung Thesakura • 3 เม.ย. 63
อ่าน
Bana Hills in my memory ไปเวียดนามพลาดไม่ได้
หากพูดถึงประเทศเวียดนาม หลายๆคนคงรู้จักและเคยไปเที่ยวกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่ไกลจากไทยเรามากนัก เรียกได้ว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านเลย การเดินทางก็ใช้เวลาไม่นานนั่งเครื่องแค่ 1.30 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ไหนๆช่วงนี้สถานการณ์โควิด 19 ก็ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก พวกเรามาเที่ยวทิพย์ไปพร้อมๆกันก่อนดีกว่าค่ะ ไว้รอสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่จะได้ออกไปเที่ยวจริงๆกันสักที ว่าแล้วก็ไปกันเลย รูปถ่ายโดยนักเขียน วันนี้เราจะไปกันที่บาน่าฮิลล์ (Bana Hill) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองดานัง (เวียดนามกลาง)ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร จากสนามบินดานังสามารถเรียก Grab Taxi ผ่านแอพได้ ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาทีก็มาถึงบาน่าฮิลล์ ซึ่งเมื่อถึงตีนเขาจะต้องซื้อตั๋วเพื่อขึ้นเคเบิล คาร์ไปบนบาน่าฮิลล์อีกที ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ 650,000 ดง หรือประมาณ 877.68 บาท (1 VND=0.0013 THB) รูปถ่ายโดยนักเขียน เมือซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็ได้เวลาไปขึ้นเคเบิล คาร์กันค่ะ ใช้เวลาเดินทางบนเคเบิล คาร์ประมาณ 30-40 นาที ระหว่างนั้นก็สามารถชมวิวข้างบนได้ตลอดทางเลย ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยต้นไม้ต่างๆ แต่ถ้ามองลงไปข้างล่างก็ค่อนข้างหวาดเสียวเนื่องจากสูงมากๆ รูปถ่ายโดยนักเขียน เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนบาน่า ฮิลล์ จะพบว่ามีการจัดแบ่งเป็นโซนๆสำหรับเดินเที่ยวได้ทั้งวัน มีทั้งโซนสวนดอกไม้ หมู่บ้านฝรั่งเศส ร้านอาหารต่างๆมากมายที่เปิดให้บริการ และช่วงที่ไปนั้นก็มีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ มาจากหลากหลายประเทศที่ต่างก็มาเที่ยวชมความงามของสถานที่แห่งนี้ สามารถเดินเล่นหรือถ่ายรูปเซลฟี่ได้ทั้งวันเลย เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่มีการระบาดของโควิด 19 เราจึงเดินเที่ยวกันอย่างสบายๆค่ะ แวะชมแต่ละจุดได้อย่างจุใจ รูปถ่ายโดยนักเขียน และที่สุดท้ายของวันนี้คือ Golden Bridge ซึ่งอยู่บนบาน่า ฮิลล์เช่นกันค่ะ ถ้าได้ขึ้นมาแล้วก็อย่าลืมแวะมาที่นี่ด้วย เป็นสะพานรูปมือสีเหลืองทองมีความยาวประมาณ 150 เมตร ซึ่งช่วงที่ไปนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปหรือเดินเข้าไปข้างในสะพานได้เลย จึงได้แต่ถ่ายรูปบริเวณด้านนอกตรงทางเข้าแทน ทริป 1 วันที่บาน่า ฮิลล์ก็จบลงเพียงเท่านี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังตราตรึงอยู่ในใจเสมอ จึงได้แต่หวังว่าหากสถานการณ์โควิดดีขึ้นเมื่อไหร่ จะได้แพ็คกระเป๋าออกไปเที่ยวอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนไว้เจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ บ๊ายบาย
July19 • 21 พ.ค. 64
อ่าน
ปาร์คยูชอน ฝากความคิดถึงแฟนๆ ชาวไทย กับมินิคอนเสิร์ต “Park Yuchun A Letter of Love Song”
เตรียมตัวให้พร้อม ต้อนรับเข้าสู่เทศกาลแห่งความรัก ชวนให้หัวใจฟู เพราะทรูไอดี จัดให้ฟิน อินเต็มที่กับกิจกรรมสุดพิเศษ และมินิคอนเสิร์ต ของนักร้องนักแสดงชื่อดัง จากประเทศเกาหลีใต้ ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) ใน Park Yuchun A letter of love song ร่วมสร้างรอยยิ้มและระดมทุนบริจาคให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย ในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ. 65 ชมสดพร้อมกัน เวลา 14:30 น. เป็นต้นไป ทางช่อง ID Station สุดพิเศษเฉพาะทรูไอดีที่เดียวเท่านั้น https://ttid.co/KupK/eb5546ef วาเลนไทน์ปีนี้ ทรูไอดีชวนมาอบอุ่นหัวใจไปกับกิจกรรมสุดพิเศษและมินิคอนเสิร์ต A letter of love song ส่งมอบจดหมายรักผ่านบทเพลงอันแสนอบอุ่น จาก ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) มาร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ มูลนิธิออทิสติกไทย และลุ้นเป็นผู้โชคดี 30 ท่าน ที่จะได้รับของขวัญวันวาเลนไทน์สุดพิเศษที่คุณปาร์ค ยูชอนตั้งใจทำมาให้แฟนๆด้วยตัวเองและยังได้ร่วมทำกิจกรรม เล่นเกม และมอบความสุข ความอบอุ่น ให้กับน้องๆออทิสติก ร่วมกันอีกด้วย สามารถสมทบทุนร่วมกับปาร์คยูชอน ด้วยการซื้อ official goods ได้แล้ววันนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทาง ticketmelon โดยรายได้จากการขาย official goods ทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย ได้ที่ https://www.ticketmelon.com/logbook/pycaletteroflovesong ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับพลังแห่งความตั้งใจจากปาร์คยูชอน ทั้งบทเพลง, ชื่องาน รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ล้วนถูกออกแบบและวางแผนโดยปาร์คยูชอนทั้งสิ้น โดย ปาร์คยูชอน ฝากความคิดถึงสู่แฟนๆ ชาวไทยสั้นๆ ว่าการได้กลับมาพบกับแฟนๆ ในครั้งนี้ จริงๆ แล้วเป็นตัวผมเองต่างหากที่เป็นฝ่ายที่มีความสุข ดังนั้นจึงอยากจะเจอกับแฟนๆ ให้เร็วที่สุดและบ่อยที่สุด อยากพูดคุยสื่อสารกับแฟนๆ ให้มากขึ้น ในแง่ของการทำงานเองผมจะตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนความรักที่ได้รับมาโดยตลอดขอบคุณที่รอคอยเพื่อจะได้เจอกันนะครับ สามารถรับชมถ่ายทอดสด ความฟิน อินทะลุจอ !! ของศิลปิน ปาร์ค ยูชอน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทางแอปพลิเคชัน TrueID, Facebook TrueID และ ช่อง TrueID Station พิเศษขั้นกว่า ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก เพียงรับชมผ่าน ID Station จะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรับการ์ดพร้อมลายเซ็นต์ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) จำนวน 5 รางวัล เท่านั้น !! โหลดแอป ล็อคอิน รอเลย https://ttid.co/KupK/5ab4c9cf
TNN ช่อง16 • 11 ก.พ. 65
อ่าน
[รีวิวเกม] Desta: The Memories Between เล่นดอดจ์บอล Turn-Based แบบ Roguelike จาก Netflix
Desta: The Memories Between ผจญความฝัน ค้นหาเรื่องราวที่ขาดหาย ด้วยเกมดอดจ์บอล Desta: The Memories Between เวอร์ชันของ Netflix เป็นเกมที่เปิดให้เล่นมาสักระยะแล้ว แต่ผู้เขียนโหลดทิ้งไว้แล้วเพิ่งมีโอกาสได้เล่น จึงพบว่านี่คือเกมแนว Strategic Turn-Based RPG ที่มีการเล่นแบบ Roguelike ที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยคอนเซ็ปต์แพ้แล้วต้องเริ่มใหม่ ทำให้เกมนี้ค่อนข้างท้าทายและกระตุ้นทักษะการคิดวิเคราะห์ไม่ใช่น้อย มาดูกันเลย เนื้อหาดำดิ่งลงไปในจิตใจ กับความขุ่นข้องจากเรื่องราวที่ผ่านมา เกมแนวเรื่องราวที่ Netflix เลือก มักมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งน่าสนใจเสมอ เกมนี้ก็เช่นกัน ด้วยการที่เปิดเรื่องมาเราจะรับบทเป็น Desta ตัวละคร Non-Binary (ที่ไม่ระบุชัดว่าตัวเองเป็นเพศชายหรือหญิง) ที่มีปมฝังใจและความขุ่นข้องกับเรื่องราวในอดีต ประกอบกับความสัมพันธ์กับแม่ที่ไม่ดีเท่าไร และดูเหมือนทุกอย่างหม่นมัวลงตั้งแต่หลังที่พ่อของเธอเสียชีวิต พ่อที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่เธอชื่นชม เขาเป็นเหมือนกาวคอยเชื่อมประสานทุก ๆ อย่างในครอบครัว ระหว่างเธอกับแม่และพี่น้อง และไม่ว่าเธอจะพบเจอกับปัญหาอะไร พ่อมักจะใช้เกมขว้างบอลเล่นกับเธอ พูดคุยกับเธอ เพื่อช่วยกันจัดการปัญหาอยู่เสมอ เกมนี้จึงจะเป็นการนอนหลับฝันเพื่อเล่นเกมขว้างบอลหรือดอดจ์บอลในการปลดล็อกปมในจิตใจของตัวละคร Desta เนื้อเรื่องเกมนี้ค่อนข้างหนักหน่วงกับปัญหาทางจิตใจเลยทีเดียว ทั้งปัญหาความสัมพันธ์ ปัญหาด้านการแสดงออกของตัวตนและอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ รวมไปถึงการสูญเสียผู้ที่เป็นที่รัก แม้เกมจะเป็นแนวขว้างบอลเล่นเพลิน ๆ งานภาพและสีสันออกจะพาสเทล แต่ไดนามิกของเกมและเนื้อหาจะค่อนไปทางหม่นนิด ๆ ประกอบกับการคุมโทนสีม่วงที่แสดงถึงความความโศกเศร้า การปิดกั้น และความขุ่นมัวบางอย่าง ทำให้เกมนี้ต้องการผู้เล่นที่พร้อมจะสำรวจเนื้อหาสะท้อนใจที่ค่อนข้างหนักนิดหน่อย (แต่เกมเพลย์สนุกเล่นเพลินนะ ขอย้ำอีกที) เกมแบบ Roguelike เมื่อการแพ้คือการเริ่มใหม่ สำหรับวิธีเล่นเกมนี้จะเป็นในลักษณะแบบเกม Roguelike คือเล่นเอาชนะให้ผ่านเป็นด่าน ๆ หลังเอาชนะแต่ละด่าน ตัวละครจะมีโอกาสเลือกบัฟ หรือสกิลในการอัปเกรดให้เก่งกาจขึ้น รวมไปถึงยังมีโอกาสปลดล็อกเพื่อนร่วมทีมใหม่ ๆ เพื่อเลือกเข้าไปช่วยเราเล่นในด่านต่อ ๆ ไปด้วย แต่จำไว้ให้ดี หากเราเล่นแพ้ ไม่ว่าจะอยู่ด่านไหนก็ตาม เราจะตื่นขึ้น แล้วต้องกลับไปเริ่มใหม่ บรรดาเพื่อนร่วมทีม สกิลแอ็กทีฟ/แพสซีฟต่าง ๆ ก็จะหายไปด้วย ต้องมาเริ่มสะสมใหม่เลย ยกเว้นสเตตัสติดตัวบางอย่าง เช่น HP และระยะการเดิน ที่จะยังคงอยู่ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เกมนี้ท้าทายไม่ใช่น้อย วิธีเล่นก็ไม่ยากนัก โดยด่านต่อสู้จะมีลักษณะแบบ Isometric Diorama (ฉากสามมิติแบบไอโซเมตริก) ที่ผู้เล่นสามารถหมุนหามุม ดูรายละเอียดได้อย่างอิสระ ตัวละครของเรากับเป้าหมาย ที่อาจเป็นวัตถุ หรือศัตรู จะอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในฉาก จะนั้นเราต้องสลับกันทำแอ็กชันแบบเกม Turn-Based เริ่มจากเราก่อน เราสามารถเลือกเดินในระยะที่ตัวละครสามารถเดินได้ จะเดินหามุมหลบการโจมตี หรือเดินไปหยิบลูกบอล (ที่จะสุ่มวางอยู่ในฉาก) ก็ได้เช่นกัน จากนั้นสามารถขว้างบอลที่เก็บมาได้โดยการกดค้างแล้วลากไปด้านหลัง (แบบดีดหนังยาง) เพื่อเล็งและปล่อยเพื่อขว้าง ง่าย ๆ แบบนี้เลย และเราสามารถใช้ฉากให้เป็นประโยชน์ เช่น สามารถหลบหลังกำแพง หรือขว้างบอลไปกระทบให้เด้งถูกศัตรูก็ได้ และหากบอลถูกศัตรูแล้วเด้งกลับมาหาเรา บอลก็จะกลับมาอยู่ในมืดเราอีกครั้ง ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเก็บในเทิร์นต่อไปด้วย ซึ่งตัวละครทั้งเรา และศัตรูจะมีหลอดเลือดเป็นจำนวนชีวิตอยู่ หากเราขว้างโดน 1 ครั้ง ศัตรูจะเสียหลอดเลือดครั้งละ 1 หลอด (หรือ 1 ขีด) เช่นเดียวกับเรา ถ้าเราถูกขว้างบอลใส่ เลือดของเราก็จะลดเช่นกัน และเลือดของฝ่ายไหนหมดก่อน ฝ่ายนั้นก็แพ้ หากเราชนะ จะได้ไปด่านต่อไป หากเราแพ้ ต้องไปเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น กติกาคร่าว ๆ ประมาณนี้ บัฟต่าง ๆ และเพื่อนร่วมทีม อย่างที่กล่าวไปแล้ว เกมนี้เมื่อเอาชนะได้ในแต่ละด่าน ผู้เล่นจะมีโอกาสปลดล็อกทั้งสกิลแอ็กทีฟและสกิลแพสซีฟที่จะมีประโยชน์กับตัวละครในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเราต้องเลือกใช้สิ่งที่คิดว่าจะมีประโยชน์กับการเล่นของเราในด่านต่อ ๆ ไปมากที่สุด ถัดมาคือเพื่อนร่วมทีม ในการสู้แต่ละด่าน เราจะมีโอกาสพบศัตรูที่อาจเป็นได้ทั้งใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก กับอาจเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของเราที่เคยมีเรื่องราว มีอดีตร่วมกันมา จะสามารถสังเกตได้จากการที่มีบทสนทนาขึ้นมาโต้ตอบกับศัตรูคนนั้น ๆ ซึ่งเนื้อหาที่เกิดขึ้นระหว่างทาง จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาของความสัมพันธ์และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวละครต่าง ๆ รวมไปถึงตัว Desta มากขึ้น และหากเราเล่นด่านนั้นชนะศัตรู เราก็มีโอกาสได้รับตัวละครเพื่อนที่เจอในด่านมาเป็นเพื่อนร่วมทีมของเราเพื่อให้เราเลือกเอาไปช่วยเล่นในด่านต่อ ๆ ไปด้วยนะ ภาพเสียงกินใจ ตามสไตล์เกม Netflix ตัวเกมมีงานภาพที่ค่อนข้างมีเอกลักลักษณ์ การใช้อาร์ตเวิร์กที่คุมโทนสีเล่นกับความรู้สึกและประสบการณ์ของผู้เล่น มีเสียงพากย์ตัวละครที่ได้มาตรฐาน เสียงประกอบเข้ากันอย่างลงตัว สอดคล้องไปกับไดนามิกของเนื้อเรื่องและตัวเกมเพลย์ได้ดีมาก ๆ เกมนี้จึงเป็นอีกเกมคุณภาพที่มาในแนวการเล่นค่อนข้างแคชวล แต่เนื้อหาอัดแน่นหนักหน่วง นับว่าเป็นหนึ่งในเกมที่องค์ประกอบทุกอย่างทำออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว สรุปแล้ว เป็นเกมที่มีการเล่นค่อนข้างแคชวล เล่นง่ายเล่นเพลินแต่ก็ท้าทาย งานภาพและเสียงทำออกมาได้ดีลงตัว การออกแบบฉากในแต่ละด่านต่อสู้ดูเรียบง่าย แต่ส่งเสริมการเล่นได้สนุก เนื้อเรื่องกินใจ เน้นปัญหาจิตใจและความสัมพันธ์ จุดสังเกต เพราะเป็นเกมที่หากเล่นแพ้ ต้องเริ่มใหม่หมด แรก ๆ อาจยังสนุกที่จะเริ่มใหม่ซ้ำ แต่พอต้องเริ่มใหม่หลายรอบเข้าอาจกลายเป็นความหงุดหงิด เหนื่อยหน่ายเกินกว่าที่จะรู้สึกสนุกท้าทาย ดาวน์โหลด Android iOS Steam ภาพโดย : millet
แบไต๋ • 13 ธ.ค. 65
อ่าน
ททท. คุมเข้มเที่ยวปลอดภัย Thailand SHA SHA SHA : The Memory @ Phuket Krabi PhangNga ปิดทุกจุดเสี่ยง
รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ตอบโจทย์ ฤดูท่องเที่ยว เริ่มขยับด้วยการจัดกิจกรรมที่ตอบโจทย์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าน่าประทับใจ (Thailand Festival Experience) ภายใต้มาตรฐานและมาตรการเข้มข้นสูงสุด เพื่อเป็นต้นแบบกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเคร่งครัดด้านสาธารณสุขซึ่งแน่นอนจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมจะได้ทั้งความสุขและปราศจากความเสี่ยง ทั้งนี้ ททท. ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่ทำตามมาตรการในการในการเข้าพื้นที่การจัดกิจกรรมสามรถเข้าร่วมได้เท่านั้น นอกจากนี้ มีการประเมินภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่โดย หน่วยงาน สธ อย่างใกล้ชิด อนึ่ง ททท. พร้อม ปรับ กิจกรรมตามคำแนะนำของ สธ เพื่อปิดทุกจุดเสี่ยง แต่ยังคงตอบโจทย์ความสุข และ ความมั่นใจ ในการเข้าร่วมงานสูงสุด The Memory @ Phuket จะเน้นรูปแบบงานแสงสี lightup illumination กิจกรรมทางน้ำ sport Tourism ส่วน The Memory @ Krabi, Phang-Nga จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสัมผัส ได้แก่ Landmark ถ่ายภาพภายในงาน บูธกิจกรรม DIY กิจกรรมการ Live จาก KOLs ที่จะมาประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นพิเศษภายในงานนี้กับสินค้าของที่ระลึกท้องถิ่นของชุมชน สินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำ การแสดงจากศิลปินในท้องถิ่น และศิลปินที่มีชื่อ การแสดงโชว์ท้องถิ่น ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างสีสันในทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน แนวคิดการจัดกิจกรรม Thailand SHA SHA SHA : The Memory @ Phuket Krabi Phang-Nga เป็นไปในรูปแบบ New Normal ที่จะดำเนินการภายใต้มาตรการการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านได้เกิดความมั่นใจในการมาร่วมงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศ และกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat) ให้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยตามโครงการ Phuket Sandbox สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในพื้นที่นำร่องรูปแบบ 7+7 (7+7 Phuket Extension) เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของประเทศ รวมถึงเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อีกทางหนึ่ง สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการเข้าร่วมงานเป็นไปตามมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัด สามารถจองคิวเข้าร่วมงานล่วงหน้าผ่าน QR Code ของกิจกรรมแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อมาถึงหน้างาน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และหลักฐานการตรวจ RT-PCR หรือ ATK ที่ออกใบรับรองจากสถาบันไม่เกิน 72 ชั่วโมง
ข่าวสด • 27 ก.ย. 64
อ่าน
ททท. จัดกิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman "ความทรงจำแห่งท้องทะเล" รำลึก 17 ปี สึนามิ
ข่าววันนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมรำลึกถึงความสวยงามของท้องทะเลอันดามันและเหตุการณ์รำลึกสึนามิ ครบรอบ 17 ปี ตลอดเดือนธันวาคม 2564 ณ จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา กับกิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman ความทรงจำแห่งท้องทะเล เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง กิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman ความทรงจำแห่งท้องทะเล จัดขึ้นตลอดทั้งเดือนธันวาคมในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2564 โดยกำหนดจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิเช่น การประดับตกแต่งสถานที่สำหรับจุดถ่ายรูปเช็กอิน กิจกรรม Live AR พร้อมการแสดงบัลเลต์ การแสดงแสงสีเสียง กิจกรรม Workshop การออกร้านจำหน่ายสินค้า การจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ การแสดงดนตรีริมชายหาด และกิจกรรมรำลึกสึนามิ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 โดยกำหนดจัดกิจกรรมในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมทั้งหมด 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณลานโลมาและถนนสายรุ้ง หาดป่าตอง และบริเวณตลาดชมเล หาดไม้ขาว สำหรับกิจกรรมบริเวณลานโลมาและถนนสายรุ้ง หาดป่าตอง พบกับการประดับตกแต่งพื้นที่ นิทรรศการสึนามิรำลึก การแสดง Street Music การประดับไฟ Light Up กิจกรรม DIY ทำเทียนและถักกำไลข้อมือ กิจกรรม Surf Skate กิจกรรม Tattoo Paint กิจกรรมแอโรบิคและกิจกรรมมวยทะเล และบริเวณตลาดชมเล หาดไม้ขาว พบกับการประดับไฟ Light Up ถ่ายรูป เช็คอินลงบน social media ต่าง ๆ จังหวัดพังงา จัดกิจกรรมทั้งหมด 4 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิ เรือต.813 สวนอนุสรณ์ สึนามิ บ้านน้ำเค็ม Memories beach และ Laybay Khaolak โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจในแต่ละพื้นที่ อาทิเช่น บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.813 พบกับนิทรรศการสึนามิรำลึก การประดับตกแต่งสถานที่ กิจกรรม DIY ทำเทียนและกิจกรรม Street Music ส่วนในพื้นที่บริเวณสวนอนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม มีการประดับตกแต่งสถานที่ให้สวยงามเข้ากับบรรยากาศ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ Memories beach พบกับกิจกรรม DIY ถักกำไลข้อมือ กิจกรรม Street Music และการแสดงดนตรีจากศิลปิน Tilly Bird และกิจกรรมที่บริเวณ Laybay Khaolak พบกับกิจกรรมการแสดง Street Market กิจกรรม Surf Skate กิจกรรม Neon Paint กิจกรรมเพนท์กระเป๋า กิจกรรม Street Music และการแสดงดนตรีจากศิลปินวง Zeal ไฮไลท์ของงานนี้คือกิจกรรมในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 พบกับกิจกรรมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2547 (Tsunami Memorial Ceremony) โดยกำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่ บริเวณสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต และบริเวณสวนอนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา โดยมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า กิจกรรม DIY ทำเทียน กิจกรรมแอโรบิค การแสดงดนตรี ออเคสตร้า พิธีจุดเทียนและวางเทียนรำลึกสึนามิ การแสดง AR Live ชุด Soul of the Sea / light up to the sky พร้อมการแสดงบัลเล่ต์และการแสดงควงกระบองไฟชุด Magical of light เป็นต้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่ากิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman ความทรงจำแห่งท้องทะเล เป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ถึงความพร้อมในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรฐาน SHA กำหนดอย่างเคร่งครัด
มติชน • 26 ธ.ค. 64
อ่าน
คาเฟ่แนวย้อนยุค กับสตูดิโอถ่ายหนังยุค80S “ชมเฌย” (The Memory of Gallery)
“ชมเฌย” (The Memory of Gallery) เป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายทำละคร-ภาพยนตร์แนวย้อนยุคที่มีร้านกาแฟอยู่ในบริเวณด้านหน้าสตูดิโอที่นี่จัดสถานที่โดยจำลองเป็นเมืองเล็กๆในยุค 70s - 80s ภายในประกอบไปด้วยร้านค้าร้านตัดผมร้านของเล่น ปั๊มน้ำมันโรงรับจำนำโรงภาพยนตร์รถยนต์โบราณ ตู้โทรศัพท์โบราณ ฯลฯซึ่งใช้ของโบราณมาตกแต่งได้สมจริงมากเสมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปในยุคนั้นจริงๆ เนื่องจากกว่าจะไปถึงก็บ่ายคล้อย ด้วยความหิวโหยจึงสั่งอาหารมาทานแบบจริงจัง ทำให้ไม่ได้ชิมขนมของทางร้านเลย ซึ่งจริงๆ ขนมของทางร้านมีหลากหลายเมนูมากๆ ในส่วนของร้านกาแฟนั้นจะมีสองโซนคือภายในอาคารที่มีแอร์และที่นั่งด้านนอกริมสระว่ายน้ำ ภายในตกแต่งแนวโบราณ ย้อนยุคกันสุดๆ (ภาพประกอบจาก Facebook : ชมเฌย) ในวันที่ไปนั้นมีการยกกองถ่ายมาถ่ายทำภาพยนตร์ จึงทำให้บริเวณบางส่วนไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ บวกกับทีมงาน นักแสดง มากันล้นหลาม และฝนก็ทำท่าจะตกอีกด้วย จึงได้เดินเล่นถ่ายรูปอยู่ในเวลาสั้นๆ สำหรับเมนูอาหารที่สั่งมาชิมกันนั้นเริ่มจากเครื่องดื่มเย็นๆดับร้อน "น้ำผึ้งมะนาว" รสชาติดีเลยค่ะ ดับร้อน สดชื่นสุดๆ ราคา แก้วละ 45 บาท เนื่องจากมาถึงด้วยความหิวโหยจึงได้สั่งอาหารมาทานกันเลย เมนูแรก "ข้าวผัดปลาเค็ม" ราคาจานละ95 บาท รสชาติดี อร่อยค่ะ เมนูถัดมา "ถุงทองไส้กุ้ง" ราคาจานละ79 บาท เมนูนี้ก็อร่อย ถูกใจมาก เมนูต่อมา "ปลาชุบแป้งทอดและเฟรนฟรายด์" ราคาชุดละ 89 บาท อิ่มมากกกก แน่นๆ จุกๆกันไปเลย เมื่ออิ่มท้องแล้วก็ออกไปถ่ายรูปเล่นกันก่อนฝนจะตก ซึ่งตอนนี้ฟ้าครึ้มมาแล้วจ้า เปิดให้บริการ : วันอังคาร – วันศุกร์ เวลา 10.00-18.00 น. และวันเสาร์- วันอาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดวันจันทร์) ที่ตั้ง :68 หมู่ 4 ซอยกำนันทินกร ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ใกล้ไปทางฝั่งนครปฐม แถวพุทธมณฑลสาย 4 GPS : https://goo.gl/maps/3uF7Dt8yMbu โทร : 089 415 2038 เครดิตรูปภาพ : ภาพที่4-7 จากFacebook ชมเฌย เครดิตรูปภาพ : ภาพ 1-3 และ ภาที่ 8เป็นต้นมาเป็นภาพของผู้เขียน
Anika • 25 มิ.ย. 63
อ่าน
รีวิวเกมอินดี้ SEASON A Letter to the Future ความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะจากหายไป
SEASON: A Letter to the Future เป็นเกมผจญภัยกราฟิกแบบพิกเซลที่พัฒนาโดย Scavengers Studio และวางจำหน่ายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ผู้เล่นรับบทเป็น Estelle หญิงสาวจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ออกเดินทางเพื่อบันทึกภาพของโลกก่อนที่มันจะสิ้นสุดลง เกมเพลย์ของ SEASON เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ผู้เล่นจะควบคุม Estelle โดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ดหรือจอยสติ๊ก การเคลื่อนไหวของ Estelle เป็นไปอย่างราบรื่นและตอบสนองได้ดี ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกได้อย่างอิสระ พูดคุยกับตัวละคร และทำภารกิจต่างๆ จุดเด่นของ SEASON คือเนื้อเรื่องและบรรยากาศ เกมนำเสนอเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงและน่าติดตาม ผู้เล่นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในโลกที่กำลังจะสิ้นสุดลง บรรยากาศของเกมก็สวยงามและชวนให้หลงใหล กราฟิกแบบพิกเซลที่เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด ผสมผสานกับดนตรีประกอบที่ไพเราะ ช่วยให้ผู้เล่นดื่มด่ำไปกับโลกของ SEASON ได้อย่างแท้จริง เนื้อเรื่องเนื้อเรื่องของ SEASON เริ่มต้นขึ้นที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง Estelle หญิงสาววัย 17 ปี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับครอบครัวของเธอ แต่แล้ววันหนึ่ง โลกก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ผู้คนต่างพากันอพยพออกจากหมู่บ้าน ทิ้ง Estelle ไว้ข้างหลัง Estelle ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อค้นหาครอบครัวของเธอ เธอออกสำรวจโลกอันกว้างใหญ่ พบเจอกับผู้คนและสถานที่ต่างๆ มากมาย เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและวัฒนธรรมของพวกเขาระหว่างทาง Estelle ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมหันตภัยที่กำลังจะมาถึง เธอรู้ว่าโลกกำลังจะสิ้นสุดลง และเธอคือคนเดียวที่จะสามารถบันทึกความทรงจำของผู้คนไว้ได้ Estelle ตัดสินใจที่จะบันทึกความทรงจำของผู้คนไว้เพื่อเป็นมรดกแก่รุ่นต่อๆ ไป เธอใช้เครื่องบันทึกเสียงของเธอบันทึกเสียงของผู้คน บันทึกภาพถ่ายและวิดีโอของสถานที่ต่างๆการผจญภัยของ Estelle เต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อ เธอมุ่งมั่นที่จะบันทึกความทรงจำของผู้คนไว้ให้ได้ บรรยากาศSEASON นำเสนอบรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงและน่าติดตาม เกมตั้งอยู่ในโลกที่กำลังจะสิ้นสุดลง ผู้คนต่างพากันอพยพออกจากหมู่บ้าน ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและความเงียบผู้เล่นจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและสิ้นหวัง โลกของ SEASON สวยงามแต่ก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความตายกราฟิกแบบพิกเซลของ SEASON เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด ช่วยให้ผู้เล่นดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของเกมได้อย่างแท้จริง ดนตรีประกอบของเกมก็ไพเราะและเข้ากับบรรยากาศของเกมได้เป็นอย่างดี ข้อดีเนื้อเรื่องชวนให้คิดถึงและน่าติดตามบรรยากาศสวยงามและชวนให้หลงใหลกราฟิกแบบพิกเซลที่เรียบง่ายแต่มีรายละเอียดดนตรีประกอบที่ไพเราะ ข้อเสียเกมเพลย์อาจดูเรียบง่ายไปสำหรับบางคนความยาวของเกมอาจสั้นไปสำหรับบางคน สรุปSEASON: A Letter to the Future เป็นเกมผจญภัยที่นำเสนอเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงและบรรยากาศที่งดงาม เกมเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหลเกมนี้ได้รับคะแนนรีวิวอย่างสูงจากสื่อต่างๆ ทั่วโลก โดยได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.5/10 คะแนน คะแนนรีวิวเนื้อเรื่อง: 10/10บรรยากาศ: 10/10กราฟิก: 9/10ดนตรีประกอบ: 10/10เกมเพลย์: 8/10ความคุ้มค่า: 9/10คะแนนรวม: 9.5/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 27 ธ.ค. 66
อ่าน
รีวิวเกม Kingdom Hearts Melody of Memory ย้อนวันวานด้วยดนตรีอันแสนไพเราะ
Kingdom Hearts Melody of Memory เป็นเกมแนวจับจังหวะดนตรีที่พัฒนาโดย Square Enix และ indieszero และเผยแพร่โดย Square Enix วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 บนแพลตฟอร์ม PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch เกมนี้เป็นเกมที่รวบรวมเพลงจากซีรีส์ Kingdom Hearts ทั้งหมดมาไว้ในเกมเดียว โดยผู้เล่นจะต้องกดปุ่มตามจังหวะของเพลงเพื่อโจมตีศัตรูและผ่านด่านไปให้ได้ เกมมีโหมดการเล่นให้เลือกมากมาย ทั้งโหมดเนื้อเรื่อง โหมด Free Play โหมด Challenge โหมด Versus และโหมดอื่น ๆ อีกมากมาย เกมเพลย์เกมเพลย์ของ Kingdom Hearts: Melody of Memory เป็นแบบกดปุ่มตามจังหวะเพลง โดยผู้เล่นจะต้องกดปุ่มที่ปรากฏบนหน้าจอตามจังหวะของเพลงเพื่อโจมตีศัตรูและผ่านด่านไปให้ได้ เกมมีปุ่มให้กดทั้งหมด 5 ปุ่ม ได้แก่ A, B, X, Y และ L1/R1 เกมมีโหมดการเล่นให้เลือกมากมาย ทั้งโหมดเนื้อเรื่อง โหมด Free Play โหมด Challenge โหมด Versus และโหมดอื่น ๆ อีกมากมาย โหมดเนื้อเรื่องโหมดเนื้อเรื่องของเกมจะพาผู้เล่นย้อนกลับไปพบกับเรื่องราวจากภาคต่างๆ ของซีรีส์ Kingdom Hearts ผ่านคัทซีนสั้นๆ ที่ตัดต่อจากเกมภาคต่างๆ ผู้เล่นจะได้ฟังเพลงจากเกมภาคต่างๆ ไปพร้อมๆ กับชมคัทซีนเหล่านี้ โหมด Free Playโหมด Free Play จะเป็นโหมดที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเพลงต่างๆ ได้ตามต้องการ โดยผู้เล่นสามารถเลือกระดับความยากและโหมดการเล่นต่างๆ ได้ โหมด Challengeโหมด Challenge จะเป็นโหมดที่ผู้เล่นจะต้องท้าทายความสามารถของตัวเอง โดยโหมดนี้จะมีเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดไว้ เช่น ห้ามพลาดกดปุ่มเกิน 3 ครั้ง หรือห้ามโดนศัตรูโจมตี เป็นต้น โหมด Versusโหมด Versus จะเป็นโหมดที่ผู้เล่นสามารถแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นได้ โดยโหมดนี้จะมีโหมดการเล่นต่างๆ ให้เลือก เช่น แข่งคะแนน แข่งเวลา หรือแข่งจำนวนดาวที่ได้รับ เพลงหนึ่งในจุดเด่นของเกม Kingdom Hearts: Melody of Memory ก็คือเพลงประกอบเกมที่ไพเราะและติดหู โดยเกมนี้มีเพลงจากซีรีส์ Kingdom Hearts ทั้งหมดกว่า 100 เพลง ผู้เล่นจะได้ฟังเพลงเหล่านี้ในเวอร์ชันที่เรียบเรียงใหม่ให้เข้ากับเกมจังหวะ กราฟิกกราฟิกเกม Kingdom Hearts: Melody of Memory อยู่ในระดับปานกลาง โดยเกมใช้กราฟิกแบบ 3D ตัวละครและฉากต่างๆ ออกแบบมาได้สวยงาม แต่รายละเอียดของฉากอาจจะดูน้อยไปบ้าง เสียงเสียงของเกม Kingdom Hearts: Melody of Memory ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเกมมีเพลงประกอบที่ไพเราะและเสียงพากย์ที่มีคุณภาพ ข้อดีเพลงประกอบเกมไพเราะและติดหูเกมเพลย์สนุกและท้าทายมีโหมดการเล่นให้เลือกมากมาย ข้อเสียกราฟิกอาจจะดูธรรมดาไปบ้างเนื้อเรื่องอาจจะสั้นไปบ้าง สรุปKingdom Hearts: Melody of Memory เป็นเกมแนวจังหวะแอคชั่นที่เหมาะสำหรับแฟนๆ ของซีรีส์ Kingdom Hearts เกมมีเพลงประกอบที่ไพเราะและเกมเพลย์ที่สนุกและท้าทาย โดยผู้เล่นจะต้องกดปุ่มตามจังหวะของเพลงเพื่อโจมตีศัตรูและผ่านด่านไปให้ได้ เกมมีโหมดการเล่นให้เลือกมากมายทั้งโหมดเนื้อเรื่อง โหมด Free Play โหมด Challenge โหมด Versus และโหมดอื่น ๆ อีกมากมาย โดยรวมแล้ว Kingdom Hearts: Melody of Memory เป็นเกมที่คุ้มค่าแก่การลองเล่นสำหรับแฟนๆ ของซีรีส์ Kingdom Hearts และผู้ที่ชื่นชอบเกมแนวจังหวะแอคชั่น เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 5 ม.ค. 67
อ่าน
หนังดีที่คุณอาจยังไม่เคยดู : Memories Of Mutsuko ชีวิตไม่ใช่เรื่องขำขำ
ความรู้สึกในขณะที่ผมดู Memories Of Mutsuko นั้น เป็นความรู้สึกเดียวกันกับเมื่อครั้งที่ได้ดูหนังเรื่อง Old Boy ของ ปาร์ก ชาง วุค เป็นครั้งแรกนี่เป็นหนึ่งในหนังเอเชียจำนวนไม่กี่เรื่อง ที่ผมตกหลุมรักมัน....อย่างสุดหัวใจMemories Of Mutsuko ไม่ใช่หนังล้างแค้น โหดเลือดสาด แบบ Old Boy แต่มันมีบางอย่างที่คล้ายกัน สิ่งที่ว่านั้นคือ 'อารมณ์ขัน' ในขณะที่ Old Boy มีบางช่วงที่เป็นตลกร้ายแบบขำไม่ออกแต่ใน Memories Of Mutsuko จะมีบางช่วงที่คุณจะขำออกมา ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องตอนนั้นมันโคตรจะเศร้าเลย!! 'อารมณ์ขัน' ขัดๆ แบบนี้นี่แหละครับ ที่ผมชอบ เรื่องราวของ Memories Of Mutsuko มันเริ่มขึ้นแบบนี้ครับ...... ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางจากบ้านนอกเข้ามาอยู่ในเมืองเพื่อตามหาความฝันโดยการเป็นนักดนตรีอยู่มาหลายปีเขาก็ยังไม่เข้าใกล้ความฝันเลยสักนิด หนำซ้ำยังถูกแฟนสาวบอกเลิกอีกในขณะที่เขากำลังหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตอยู่นั้นเอง พ่อของเขาก็แวะมาเยี่ยมพร้อมกับเถ้ากระดูกของป้าที่ชื่อว่า 'มัตสึโกะ' .....ป้ามัตสึโกะ เป็นญาติที่เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้..... ก่อนที่พ่อของเขาจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ได้ฝากฝังเขาให้ช่วยไปเก็บกวาดทำความสะอาดห้องเช่าของป้าชายหนุ่มจึงเดินทางไปยังห้องพักของป้าผู้ล่วงลับ แล้วพบว่าชีวิตในช่วงบั้นปลายของป้ามัตสึโกะนั้นช่างน่าอเนจอนาถเธอไม่คบหาใคร วันวันเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเช่าขนาดเท่ารูหนูที่เต็มไปด้วยเศษขยะที่ไม่เคยถูกนำไปทิ้งเลย.... "ขอโทษด้วยที่ฉันเกิดมา" คือข้อความที่ถูกเขียนขึ้นโดยป้าของเขา ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา....คนแบบไหน...ที่เขียนข้อความแบบนี้ขึ้นชีวิตและโลกแบบไหน....ที่ป้ามัตสึโกะของเขาต้องเผชิญมากว่า 50 ปี ก่อนที่จะจบชีวิตลงด้วยการถูกคนทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเริ่มทำความรู้จักกับป้าของเขา..... "ตอนเราเป็นเด็ก ทุกคนล้วนฝันถึงอนาคตที่สดใสแต่พอเราเติบโตขึ้น เมื่อไม่มีสิ่งใดเป็นไปตามที่เคยฝันมันช่างเจ็บปวด มันทำให้เสียใจและทำให้แค้นใจ" "ผู้หญิงทุกคนต่างฝันว่า อยากเป็นสโนว์ไวท์หรือซินเดอเรลล่า อยากจะมีชีวิตที่แสนหวานแต่แล้ววันหนึ่งเรากลับตื่นขึ้นมา พบว่าหงส์ขาวกลายเป็นอีกาตัวดำไปแล้วคนเรามีอยู่แค่...ชีวิตเดียว หากชีวิตนี้เป็นเทพนิยาย ก็คงเป็นเทพนิยายที่โหดร้ายที่สุด..." มัตสึโกะ เป็นคุณครู โสเภณี มียน้อย ฆาตกร ก่อนที่จะมาจบชีวิตด้วยการเป็นยายแก่อ้วนตัวเหม็นในห้องเช่าเล็กๆชีวิตของเธอคือหนังดราม่าหนักๆ ที่สามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้เลย หากจะนำมาสร้างเป็นละครหลังข่าวแบบไทยๆแต่ผู้กำกับซึ่งก็คือ เท็ตสึยะ นากาชิมะ 'ไม่เลือก' ที่จะเล่าเรื่องแบบนั้น.... เขาเล่าเรื่องของ มัตสึโกะ ผ่านมุมกล้องที่หวือหวา และสีสันที่จัดจ้าน ราวกับมันเป็นมิวสิควีดีโอชั้นเยี่ยมแถมยังเคลือบไว้ด้วยมุกตลกที่อาจจะทำให้คุณต้องหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาได้เลยละครับ.... มัตสึโกะ รับบทโดย มิกิ นากาตานิ ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ในหนังน่ารัก กุ๊กกิ๊ก อย่าง Train Man ในเรื่องนี้เธอต้องรับบทเป็น มัตสึโกะ ตั้งแต่สาวยันแก่ และเธอเป็นนักแสดงอีกคนหนึ่ง ที่เล่นได้ 'เทพ' มากๆ ครับ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนล้วนมีค่า แม้ว่าบางคนอาจจะไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง "คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ว่าเราได้รับอะไรในชีวิต แต่อยู่ที่เราให้อะไรใครบ้าง" คือประโยคที่ตัวละครคนหนึ่งในหนังพูด คนอย่าง มัตสึโกะ แม้จะไม่ประสพความสำเร็จในชีวิต ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยเรื่องร้ายซ้ำๆ ซากๆ แต่อย่างน้อยชีวิตของมัตสึโกะก็ได้ให้บทเรียนกับหลานชายของเธอ ทำให้เขาเติบโตขึ้น มองโลกต่างออกไปจากเดิม และรู้จักกับความหมายของคำว่า 'ชีวิต' มากขึ้น Memories Of Mutsuko มีจำหน่ายแบบถูกลิขสิทธิ์แล้วในประเทศไทยโดยมีชื่อไทยว่า "เส้นทางฝัน แห่งมัตสึโกะ"จัดจำหน่ายโดยค่าย อีวีเอส
วราห์ชา • 25 ธ.ค. 62
อ่าน
ชมเฌย The Memory Gallery
วันเสาร์อยู่บ้านเหงาๆ เราหาเรื่องออกบ้านไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ วันนี้ Tippy ชวนน้องสาว ออกไปลัลลา หาที่จิบกาแฟ ทานขนมกันค่ะ ชวนกันไปร้านกาแฟแถวบ้านก็ดูจะธรรมดาไป ขอไปเที่ยวด้วยเเล้วกัน Tippy เลยขับรถพาน้องไปที่นี่ค่ะ ชมเฌย ชมเฌย เป็นสตูดิโอจำลองขนาดใหญ่ สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์และละคร สร้างให้เป็นเมืองขนาดย่อมๆ Tippy มาที่นี่เป็นครั้งที่สองค่ะ แต่อย่าได้มาถามเส้นทางเลย เพราะให้มาเองก็มาไม่ถูก ต้องอาศัย GPS นำทางเท่านั้น ร้านชมเฌย ตั้งอยู่ในซอยกำนันทินกร เขตอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี สำหรับเราสองพี่น้อง มาที่นี่จากความตั้งใจแรกคือ กินขนม ดื่มกาแฟ เมื่อจอดรถปุ๊บ จึงเดินเข้า coffee shop ก่อนเลย มีสองโซนให้เลือกนั่ง จะชอบแบบ out door ชมสวน ริมสระน้ำ หรือนั่งตากแอร์เย็นๆ ในบ้านสไตล์โคโลเนียลสีขาว ได้ทานขนมอร่อยและกาแฟเย็นๆ กันเเล้ว เมื่อออกมาจากร้านกาแฟ บริเวณหน้าห้องน้ำมีเต่า สวนสัตว์เล็กๆ ให้เด็กๆ ได้ชมด้วย จากนั้นเราก็เริ่มเดินทางด้วย time machine ย้อนเวลาเข้าสู่ยุค 70 มาเจอโกดัง มุมถ่ายรูปอาร์ทๆ ยอดนิยม เดินผ่านไปเจอรถม้า และหัวจักรรถไฟสมัยก่อน ด้านหลังเป็นสถานีรถไฟ ถัดไปเป็นโรงหนัง และปั๊มน้ำมัน เพิ่งทราบว่า ปั๊มแบบนี้ในสมัยก่อน เรียกปั๊มสามทหาร เป็นปั๊มน้ำมันของรัฐบาลในยุคแรกๆ ก่อนจะมีปั๊มน้ำมันเอกชนเข้ามาในประเทศ อุ๊ย..ที่นี่ ทุกอย่างคือประวัติศาสตร์ของชาติเลยนะเนี้ย ต่อไปเป็นโรงรับจำนำ ไปรษณีย์ โรงแรม และเข้าสู่ชุมชนเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้า ในตัวตึกแบบย้อนยุค พร้อมกับอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในยุคสมัยนั้นๆ มีรถลากจอดอยู่ที่ถนนด้วย ราวกับเราหลุดเข้าไปในละครพีเรียด ให้เราได้เดินชม ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันเพลินเลยค่ะ ด้านหลังตึกฝรั่ง เป็นเรือนไม้บ้านไทยโบราณ เป็นบรรยากาศชุมชนตึกแถวริมน้ำ มีเรือพายผูกไว้บริเวณท่าน้ำหน้าบ้าน ตามวิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำ ข้าวของเครื่องใช้แต่ละชิ้นที่ตั้งโชว์อยู่ที่นี่ ได้จัดสรรร้อยเรียง เล่าเรื่องราวผ่านยุคสมัยต่างๆ คือบันทึกประวัติศาสตร์อย่างดี ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และให้คนรุ่นเก่าได้มีสถานที่ได้รำลึกอดีตกัน ชมเฌยจึงเป็นอีกสถานที่แนะนำสำหรับครอบครัวค่ะ Tips: ชมเฌย เปิดให้เข้าชมฟรี วันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ก่อนเดินทางแนะนำให้เช็คข้อมูลจาก www.facebook.com/ChomcheiCafe ก่อนนะคะ เผื่อมีกองถ่ายไม่สามารถเดินชมด้านในได้
Tippy on the way • 5 ก.พ. 63
อ่าน
เก่งขึ้นด้วย Generalism รีวิวหนังสือ How to be Better at (Almost) Everything
หนังสือ "How to be Better at (Almost) Everything" ของ Pat Flynn ได้ถูกเผยแพร่ในปี 2019 และมันบอกวิธีที่จะกลับมาเป็นคนที่ดีขึ้นในเรื่องทุกอย่างเกือบทุกอย่าง. สำหรับผู้เขียน, คนทั่วไปคือคนที่เก่งในอะไรก็ตามต่าง ๆ ไม่เหมือนกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนเก่งที่สุดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดย Pat Flynn เป็นนักเขียน, นักปรัชญา, นักดนตรี, และนักธุรกิจโดยเขาให้บริการในการให้คำปรึกษาทางธุรกิจออนไลน์และเป็นผู้ฝึกออกกำลังกายส่วนตัว ตัวเขายังเป็นผู้เขียนหนังสือ 4 เล่ม โดยหนึ่งในนั้นเขาเขียนไว้สำหรับลูกของเขา และเล่มอื่น ๆ เป็นหนังสือขายดี นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เขียนของรายการพอดคาสต์ "The Pat Flynn Show" ที่เขาสอนเกี่ยวกับการมีทักษะรอบด้านหรือ Generalism ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของหนังสือนี้ "รีวิวและสรุป"ในช่วงแรกของหนังสือจะมีสิ่งที่น่าสนใจคือการยกประเด็นของ Skill stacking กับ Specialization คือการมีทักษะหลายอย่างกับการเป็นเลิศด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งอธิบายผ่านมุมมองและประสบการณ์จริงของตัวนักเขียนอย่าง Pat Flynn เอง นำมาซึ่งการนำเสนอแง่มุมต่อยอดไปถึง Generalist กับ Specialist ที่อาจจะเปลี่ยนมุมมองของคนหลาย ๆ คน รวมถึงตัวผมเองด้วยเพราะว่าหนังสือค่อนข้างอวยในเรื่องของ Skill stacking เลยได้เห็นความคิดอีกด้านหนึ่ง ซึ่งในบทแรกจะเน้นการเล่าถึงความเจ๋งของการเป็น Generalist ผ่านการเติบโตในรั้วโรงเรียนมัธยมจวบจนเข้ามหาลัยของตัว Pat Flynn ที่จะทำให้เห็นความแตกต่างย่างมีนัยสำคัญของทั้ง 2 สิ่ง แล้วการเป็น Generalist นั้นดียังไง เป็นแล้วเจ๋งแบบไหน ทำไมคนถึงเชิดชูนักหนา ทำไมผู้คนถึงต้องการตัว ถ้ามันดีขนาดนั้นแล้วเราจะเป็นมันได้อย่างไร นำมาซึ่งสิ่งที่เป็นเนื้อหาหลัก ๆ ในบทต่อไปจะมีอยู่ในบทที่ 3 เป็นต้นไปนั่นคือ Becoming an Expert Generalist : 5 key principles ซึ่งได้แก่1. Skill Stacking Specialization2. Short-Term Specialization3. The Rule of 80 Percent4. Integration Isolation5. Repetition and ResistanceSkill Stacking Specializationตามสถิติแล้วผู้คนจะพยายามการที่จะเป็นเลิศด้านใดด้านหนึ่งซึ่งต้องแลกด้วยเงื่อนไขมากมาย ไม่ว่าทางกาย และทางใจ สุดท้ายก็สูญเสียความสุขไป ผู้เขียนกำจะสื่อว่าแท้จริงแล้วทักษะบางอย่างจะส่งเสริมทักษะอีกอย่างได้ ซึ่งการผสมผสานทักษะหลากหลายมีพลังมากกว่าทักษะเดี่ยว นอกจากเรียกรู้ทักษะเเล้ว เราต้องเรียนรู้ที่จะผสมผสานมันเข้าด้วยกันShort-Term Specializationเป็นการยากที่จำหลายสิ่งพร้อม ๆ กันและจะเกิดความเครียดได้ จึงต้องผ่อนสิ่งใด สิ่งหนึ่งลง เพื่อสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า “Opportunity cost” คือการเสียสละบางอย่างเพื่อแลกมาซึ่งสมาธิที่จะจดจ่อกับอีกสิ่ง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือการฝึกสมาธิที่หากเราเสียสละเวลาเล่นกีต้ามาทำสมาธิ วันละ 5 นาที ไปเรื่อย ๆ จะเห็นได้ว่าเรามีสมาธิมากขึ้นเครียดน้อยแถมยังจดจ่อกับการเล่นกีต้าได้ดีขึ้นThe Rule of 80 %ในกฎนี้สามารถพูดได้เลยว่าเป็นกฎของ Generalist คือเราเก่งเกิน Average ของทักษะนั้นเช่นคนทั่วไปอาจอยู่ที่ 50% เราไม่จำเป็นต้องมีทักษะ 100 % เพราะว่า ทักษะมากกว่า 80% มักจะเป็นอะไรที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากและบงทีไม่คุ้มค่าพอ ดังนั้นเราฝึกฝนทักษะแค่ 80 % พอแล้วเอาเวลาไปผสมผสานกับทักษะอื่นดีกว่าIntegration IsolationIntegration Isolation นั้นีความคล้ายกับกฎ 80/20 หรือ การกำหนดขอบเขตที่แคบที่สุด การเน้นเอาสิ่งที่ต้องการ ดั่งเช่น คาราเต้มีท่าเตะ 1000 ท่า แต่เพื่อที่จะเป็นสุดยอดนักคาราเต้และล้มคู่แข่งได้ ไม่จำเป็นต้องเรียนทุกท่า เพียงแค่ 10 ท่า ก็พอ มันคือการคัดเอาสิ่งที่สำคัญจริง ๆ เพื่อนำเราไปสู่เป้าหมาย เพื่อกระจ่างยิ่งขึ้น Integration = การทำบางสิ่งในบริบทที่ถูกต้องและควรจะเป็นที่ถูกทางตามที่ตั้งใจไว้ กลับกัน Isolation = คือทำบางสิ่งด้วยตัวเองคนเดียวซึ่งดีแต่บางครั้งกลับไม่สร้างความคืบหน้าใด ๆ ซึ่งการที่รู้ Integration จะรู้ว่าต้อง Isolate เมื่อใดและอย่างไรนั่นเอง Repetition and Resistance ข้อนี้ค่อนข้างเข้าใจง่ายแต่ปฏิบัติตามยากคือ หากคุณต้องการพัฒนาสิ่งดไม่ว่าจะเป็นกล้าเนื้อหรือสมอง คุณจะต้องเพิ่มความยาก ความท้าทาย เพิ่มความโหด เข้าไป แน่นอนคุณจะทำสิ่งนั้นได้แย่ลงเพราะมันยาก แต่คุณจะพัฒนาและเก่งขึ้น และทั้งหมดนี้ต้องอาศัย วินัย แรงจูงใจ สมาธิ ตรรกะ และ ศรัทธา ซึ่งตัวหนังสือนี้ดีมากมีวิธีปฏิบัติและเช็คลิสต์ให้คุณได้ปฏิบัติตาม และถึงบททสุดท้ายก็มีแนะนำทักษะที่คิดว่าจำเป็น (พวก Meta skill) หากใครสนใจก็อ่านเก็บไว้เผื่อได้ใช้อีกด้วยอีกทั้งยังมีช่อง pod cast กับ channel youtube ด้วยเผื่อใครสนใจก็ไปติดตามได้ ภาพประกอบที่ 1 จาก นักเขียนภาพประกอบที่ 2 Pat Flynn (@PatFlynn) / X (twitter.com)ภาพประกอบที่ 3 Pat Flynn - YouTube7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์
6331213021 • 20 พ.ย. 66
อ่าน
ประมวลภาพ "2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK" [Memory of Angel]
อบอุ่นหัวใจ! "พัคชินฮเย" เติมเต็มช่วงเวลาแห่งความทรงจำดีๆ กับแฟนชาวไทยอีกครั้ง ใน "2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK" [Memory of Angel] ประมวลภาพงานแฟนมีต พัคชินฮเย เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ดีสมชื่อจริง ๆ สำหรับ "2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK" [Memory of Angel] โดยผู้จัด RegiStar ที่จัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามแควร์ หลังจากไม่เจอกันนานนับ 10 ปี นักแสดงสาวสวย เจ้าของรอยยิ้มหวาน "พัคชินฮเย" ไม่ทำให้ผิดหวัง เตรียมความ exclusive จัดเต็มมามอบให้เหล่า Thai Starlight Angel แบบพิเศษสุด ๆ ด้วยการขนเพลงมากมายมาร้องแบบ live band ให้แฟนชาวไทยได้ฟังโดยเฉพาะ ทั้งเพลง ARM PILLOW, WITHOUT WORDS (OST. YOURE BEAUTIFUL), IT WAS YOU (OST. CYRANO AGENCY), PITCH BLACK (OST. MY CUTE GUYS), STORY (OST. THE HEIR), DREAMING A DREAM (OST. PINOCCHIO), FOREST และ IM SAYING อีกทั้งยังได้ โบ (ธนากร ชินกูล) มาเป็นพิธีกรร่วมสร้างสีสันความเฮอา กับเกมส์ และชาเลนจ์ท้าทายความสามารถ สนุกสนาน ที่เรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ไม่ขาดสาย เช่น QA, เกมส์ตกปลา, เกมส์ใบ้คำ, ให้ทำท่าน่ารัก ๆ ฯลฯ งานนี้ "พัคชินฮเย" ได้ชื่อไทยกลับไปใหม่ด้วยว่า "น้องผักพริก" หมายถึงพัคชินฮเยที่สวยแซ่บนั่นเอง! จบงานด้วยความอบอุ่น ด้วยเซอร์ไพรส์โปรเจกต์จากแฟนชาวไทยทำเอา "พัคชินฮเย" ยิ้มทั้งน้ำตา นับว่าเป็นของขวัญครบรอบ 20 ปีของการเดบิวต์ เป็นความทรงจำดี ๆ และเป็นพลังที่ทั้งพัคชินฮเย และแฟน ๆ มอบได้ให้แก่กัน "ชินฮเยจะตั้งใจถ่ายละคร แล้วจะกลับมาอีกนะคะ ครั้งนี้ใช้เวลานานมากกว่าจะเจอกัน ครั้งหน้าสัญญาว่าจะไม่ให้รอนาน ขอบคุณที่รอชินฮเยนะคะ" อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี Doctor Slump หัวใจหมอไม่มอดไหม้ (ตอนล่าสุด)
ข่าวบันเทิง • 10 มี.ค. 67
อ่าน
แนะนําซีรี่ย์ memories of the Alhambra
สวัสดีเพื่อนพ้องและน้องพี่ที่เคารพรักทุกท่านนะครับผม กลับมาพบกับผมวิศวะหนีเที่ยวอีกครั้งแล้ว และแน่นอนเลยเมื่อเราไปเที่ยวไหนไม่ได้ต้องนอนเฝ้าห้อง เฝ้าจอคอมฯ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่เวลาก็ยังเหลือ ๆ งั้นผมขออนุญาติแนะนำซีรีย์สุดสนุกอีกเรื่องเพื่อแก้เบื่อของเพื่อน ๆ นะครับผมเรายังคงอยู่กับซีรีย์ในฝั่งของทางเอเชีย ซีรีย์เกาหลีนั่นเอง ประเทศนี้ต้องบอกว่าเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ซีรีย์เลยมีมาให้เราดูกันไม่หยุด หยุดดูเมื่อไหร่ดูไม่ทันเมื่อนั้น นี่ขนาดมาแค่อาทิตย์ละตอนถึงสองตอนเท่านั้นเองนะครับเนี่ย นอกเรื่องกลับเข้าเรื่องก่อน ซีรีย์ที่จะมาแนะนำในวันนี้เป็นแบบ ไซไฟล้ำจินตนาการ อาจจะเป็นอนาคตอันใกล้นี้แล้วก็ได้ที่เราจะได้สัมผัสมันนั่นคือ เกมส์คอมพิวเตอร์ในรูปแบบของ AR อธิบายถึงเกมส์ AR ก่อนหลายคนอาจคุ้นเคยกับเกมส์ VR หากใครเคยดูหนังเรื่อง Ready Player One จะเข้าใจได้ทันทีมันคือเราใส่แว่นและตัวแว่นจะแสดงภาพออกมาทำให้เราเหมือนรู้สึกเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนนั้นจริง ๆ แต่ AR คือเกมส์ที่เรามองผ่านแว่นแล้วมีภาพแสดงให้เราเห็นเหมือนสิ่งนั้น ๆ มีอยู่จริงในโลกจริงและสภาพแวดล้อมปัจจุบัน เครดิตภาพMemories of the Alhambraอาลัมบรา มายาพิศวงเรื่องย่อเมื่อยูจินอูเจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่เข้าซื้อเกมส์ที่มีมูลค่านับล้านเหรียญ เพื่อนำมาใช้งานกับโปรเจกต์คอนแทคเลนส์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะการใช้งานคู่กับเทคโนโลยี AR โดยเขาเดินทางมาที่สเปนเพื่อตกลงซื้อขายเกมส์กับผู้สร้างแต่แล้วผู้สร้างได้หายตัวไป เมื่อมีการเริ่มต้นทดสอบระบบเกมส์ ผู้เล่นที่เสียชีวิตในเกมส์กลับตายในโลกความจริงด้วย เครดิตภาพยูจินอูจึงต้องค้นหาความจริงถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นนี้ และค้นหาผู้สร้างเกมส์ที่หายไปว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่แล้วจะแก้ไขข้อผิดพลาดนี้เพื่อให้เกมส์เปิดใช้งานได้อย่างไร มิฉะนั้น ยูจินอูจะล้มละลายจากการลงทุนซื้อขายในครั้งนี้เครดิตภาพภาพสวยงาม เอฟเฟ็คสมจริง เนื้อเรื่องน่าติดตามแบบสุด ๆ ทำเอาปลุกอารมณ์อยากเล่นเกมส์ขึ้นมาเลย อีกทั้งคู่พระ นางเล่นได้ดีแบบสุด ๆ จริง ๆ เป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งเลยนะครับในวงการซีรีย์เกาหลีเนี่ยเรื่องนี้ เครดิตภาพเรื่องนี้ฉายทางช่อง TVN มีจำนวนทั้งหมด 16 ตอน (จบแล้ว) คนไทยสามารถหาดูได้ทางช่อง Viu Netflix และ ifllx เจ้าเก่าเจ้าประจำของคนรักซีรีย์เกาหลีนะครับ หากกำลังมองหาหนังสนุก ๆ ดูเรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงBy วิศวะหนีเที่ยว
วิศวะหนีเที่ยว • 11 เม.ย. 63
อ่าน
เจมส์ มาร์ ควง ฮัม อึนจอง เปิดตัว MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก
บริษัท “เฟฮู อินฟินิตี้ จำกัด” ค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ ได้จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รักโรแมนติกที่สุดแห่งปี “MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก” งานภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตของ “เจมส์มาร์” ที่ได้มาประกบคู่นักร้อง นักแสดงซุปเปอร์สตาร์จากประเทศเกาหลี “ฮัม อึน-จอง” นอกจากนี้ยังมีนักแสดง “แม็กณัฐวุฒิ เจนมานะ, เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์, จอย จุฑามาศ วิชัย” มาช่วยสร้างสีสันให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ครบทุกอารมณ์ ผลงานการกำกับการแสดงโดย “มนัสนันท์ กุดหอม” เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีนีเพล็กซ์ โดยมีบรรดากองเชียร์ แฟนคลับ ต่างพร้อมใจกันมาแสดงความยินดี ให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม อบอุ่น คึกคัก ก่อนจะถึงนาทีแห่งความทรงจำ ทีมนักแสดง นำโดย “เจมส์มาร์” ได้ออกมาเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศการถ่ายทำ ที่ไม่ง่าย ทั้งเรื่องของอากาศและภาษา ที่ไปถ่ายทำกันถึงประเทศเกาหลี ภาพยนตร์ “MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก” มีความพิเศษที่นำ “โฮโลแกรม” คือแอพพลิเคชั่นหุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนไหว สื่อสารได้จริง “เจมส์” เลยสาธิตวิธีพูดคุยกับ “โฮโลแกรม” ที่เป็นส่วนสำคัญ ก่อให้เกิดความรักขึ้นกับ “ฮัม อึน-จอง” พร้อมส่งสายตาหวานไปให้ เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่น เท่านั้นยังไม่พอ“เจมส์มาร์” จับไมค์ขึ้นร้องเพลง เฉียด จากนั้น “ฮัม อึน-จอง” ทำเซอร์ไพรส์สุดพิเศษมอบให้แฟนชาวไทย ด้วยการคว้าไมค์บ้าง โชว์เสียงร้องเพลงไทย “ความทรงจำ” เพลงประกอบภาพยนตร์ เล่นเอาแฟนๆ ที่มาเชียร์ต่างประทับใจ กับเสียงร้องและโชว์ที่ออกมาชัดทุกคำ และมาช่วงท้าย ก่อนจะก้าวเข้าชมผลงานในครั้งนี้ “คุณพนิดา บวรวาณิชย์” ผู้บริหาร บริษัท “เฟฮู อินฟินิตี้” ขึ้นมอบดอกไม้ และร่วมถ่ายรูปกับนักแสดงเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นเต็มตัว กับความรักสุดโรแมนติกพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์!! เตรียมพบกับบทบาท “ภัทร์” โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะ ฝีมือการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกของ “เจมส์มาร์” ที่โคจรมาพบกับความรักเข้าอย่างจังกับ “มินจี” แสดงโดยฮัม อึน-จอง ผู้หญิงที่สวย เก่ง มีความอ่อนโยน แต่ใช้เวลาไปกับการทำงานจนลืมเรื่องความรัก พร้อมด้วย “แม็กณัฐวุฒิ เจนมานะ, เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์, จอย จุฑามาศ วิชัย”ในภาพยนตร์ “MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก” ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ชมกันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเข้าไปสัมผัส ความรัก ความอบอุ่น ความสุข เสียงหัวเราะ และความประทับใจ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ข่าวบันเทิง • 23 ก.พ. 60
อ่าน
Cover Letter คืออะไร? เขียนยังไงให้ถูกใจ HR
ช่วงนี้อ้อมแอบเบื่อนิดๆ ค่ะ อยากเปลี่ยนงาน ไม่รู้เบื่องานหรือเบื่อคน วันนี้เลยมีโอกาสเขียน Cover Letter ก็เลยเอาเรื่อง Cover Letter มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังค่ะ โดยถ้าเปรียบ Cover Letter เป็นหนังรักโรแมนติก มันก็คือ ฉากสารภาพรักสุดซึ้ง ที่คุณต้องขายความดีงามของตัวเองให้ HR เห็นว่า “คุณนี่แหละใช่เลย! คู่แท้ที่บริษัทตามหา!” มันคือจดหมายแนะนำตัวที่คุณเขียนเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงเหมาะกับงานนี้ และเป็นโอกาสเดียวที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้แค่สมัครเล่นๆ แต่ตั้งใจมาเพื่อเปลี่ยนเกม! Cover Letter ต้องเขียนยังไงถึงจะปัง? อย่าห่วงว่าจะต้องเป็นทางการจนเคร่งเครียด แต่ให้เขียนในแบบที่ HR อ่านแล้วยิ้มแบบ “เออ...น่าสนใจนะ” 1. เปิดตัวให้ประทับใจ อย่าเริ่มด้วย "ดิฉันอยากสมัครงานค่ะ" เอาให้มีพลัง! ยิ่งเป็นตัวเองมากเท่าไหร่ยิ่งดี เช่น: ภาษาไทย: "สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่ออ้อมค่ะ กำลังสมัครตำแหน่ง Content Writer ที่บริษัท ABC ดิฉันเชื่อว่าความบ้าพลังและคลังไอเดียของดิฉันเหมาะมากกับงานนี้ค่ะ!" ภาษาอังกฤษ: "Hi! My name is Aom, and I’m thrilled to apply for the Content Writer position at ABC Company. With my passion for creativity and love for storytelling, I believe I can bring fresh ideas to your team." 2. ใส่จุดขายแบบป้ายไฟแฟลช นี่แหละหัวใจสำคัญ! บอกเลยว่าคุณเจ๋งยังไง มีอะไรที่โดดเด่น เช่น: ภาษาไทย: "ดิฉันมีประสบการณ์เขียนบทความ SEO ที่ดันยอดเว็บไซต์จนคนอ่านทะลุหลักแสน! พร้อมทั้งทักษะการเขียนที่ทำให้ทุกคำไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ แต่เป็นประสบการณ์ที่คนอยากแชร์ต่อค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "I have hands-on experience in crafting SEO articles that boosted website traffic to over 100,000 readers. Every piece I write is more than just words—it’s an experience readers love to share." 3. ชมบริษัทแบบเนียนๆ อ้อนนิดๆ พูดให้ดูว่าเรารู้จักเขาจริง! เช่น: ภาษาไทย: "ดิฉันชื่นชมที่บริษัท ABC มีเป้าหมายชัดเจนในการเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์สร้างสรรค์ และดิฉันมั่นใจว่าประสบการณ์ของดิฉันจะช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทไปได้ไกลกว่าเดิมค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "What I love most about ABC Company is its clear vision to lead in creative content. I’m confident that my expertise can contribute to achieving even greater success." 4. ปิดท้ายให้น่ารัก น่าจดจำ อย่าจบแบบห้วนๆ! ขอให้ทิ้งความประทับใจไว้ เช่น: ภาษาไทย: "สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านจดหมายของดิฉัน หวังว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยเพื่อแสดงความตั้งใจและพลังของดิฉันให้เห็นจริงๆ ค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "Thank you for taking the time to read my letter. I look forward to discussing how my enthusiasm and energy can contribute to your team." เคล็ดลับแบบอ้อมให้ Cover Letter ต๊าซสุด ไม่ต้องพยายามทางการเกิน: เป็นตัวเองแต่ยังมืออาชีพ เลี่ยงสำเนาซ้ำ: HR จะดูออกว่าใช้คำเดิมส่งทุกบริษัท ใส่ความจริงใจ: ยิ่ง HR รู้สึกว่าคุณ "จริงใจ" เขาจะยิ่งอยากเจอคุณ อ่านทวนก่อนส่ง: พิมพ์ผิดแค่ตัวเดียว...ชีวิตเปลี่ยน ตัวอย่าง Cover Letter ภาษาไทยสไตล์อ้อม เรียน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่ออ้อมค่ะ กำลังสมัครตำแหน่ง Content Writer ที่บริษัท ABC ซึ่งได้ทราบข่าวการรับสมัครจาก JobThai ดิฉันมั่นใจว่าความบ้าพลังและคลังไอเดียของดิฉันเหมาะมากกับงานนี้ค่ะ! ดิฉันมีประสบการณ์เขียนบทความ SEO ให้เว็บไซต์ชั้นนำ เช่น [ชื่อเว็บไซต์] ทำให้ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 30% ภายใน 3 เดือน รวมถึงมีทักษะการเขียนที่เปลี่ยนตัวหนังสือธรรมดาให้เป็นคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจคนอ่านจนกดแชร์ ที่สำคัญ ดิฉันชื่นชมความตั้งใจของบริษัทที่มุ่งสร้างคอนเทนต์สร้างสรรค์และเปี่ยมคุณภาพ ดิฉันหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่น่าประทับใจนี้ค่ะ สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านจดหมายของดิฉัน หวังว่าจะได้พบกันในสัมภาษณ์ค่ะ ด้วยความเคารพ อ้อม ตัวอย่างภาษาอังกฤษ Dear Hiring Manager, Hi! My name is Aom, and I’m thrilled to apply for the Content Writer position at ABC Company. With my passion for creativity and storytelling, I believe I’m the perfect fit for your team. I have hands-on experience crafting SEO content that boosted website traffic by 30% in three months. My unique approach transforms simple words into engaging content that readers love to share. What I love most about ABC Company is its vision for producing high-quality, innovative content. I’m eager to contribute my skills and energy to help the team achieve even greater success. Thank you for considering my application. I look forward to the opportunity to discuss my qualifications further. Sincerely, Aom สรุป การเขียน Cover Letter ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เล่าให้เหมือน "ขอพื้นที่ขายของแบบมีเสน่ห์" ยังไง HR ก็ต้องหันมามองคุณแน่นอน! 😊 อ้างอิง ภาพจาก www.pixabay.com / ภาพที่ #1 user Bru-nO / ภาพที่ #2 user olilynch / ภาพที่ #3 user BiljaST / ภาพที่ #4 user LetsFAME ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
063******* • 14 ธ.ค. 67
อ่าน
เดินชม "ชมเฌย" The Memory Gallery
สำหรับใครที่กำลังมองหาสตูดิโอถ่ายรูปแนวย้อนยุค วันนี้จะมาแนะนำสถานที่นี้เลยค่ะ "ชมเฌย" (The Memory Gallery) ตั้งอยู่ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง การเดินทางก็แสนจะง่ายค่ะ รถยนต์ส่วนตัว - ใช้เส้นทางบรมราชชนนีมุ่งหน้าไปถนนพุทธมณฑลสาย 4 แล้วขับรถไปเรื่อย ๆ ไปยังซอยกำนันทินกร ใกล้กับถนนศาลาธรรมสพน์ ร้านจะอยู่ซ้ายมือระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 กับสาย 4 รถโดยสารประจำทาง - รถเมล์ปรับอากาศ สาย ปอ. 515, ปอ. 547 และ ปอ.84ก - รถเมล์ธรรมดา สาย 124, สาย 125, สาย 164, สาย 388 และสาย 84ก รถตู้ปรับอากาศ - สายอนุสาวรีย์ชัย - ม.มหิดล ศาลายา - สายเซ็นทรัลปิ่นเกล้า - ม.มหิดล ศาลายา "ชมเฌย" เป็นสตูดิโอขนาดเล็ก เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 นาฬิกา และวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 นาฬิกา (หยุดทุกวันจันทร์) เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นสื่อมวลชนควรทำเรื่องขออนุญาตก่อนเข้าไปถ่ายทำด้วยนะคะ และก่อนเดินทางไปเข้าชมนั้นแนะนำให้โทรศัพท์สอบถามล่วงหน้าก่อน เพราะหากมีการถ่ายละครทางร้านจะไม่อนุญาตให้เข้าชมได้ เมื่อเข้าไปถึงโซนแรกใกล้กับสถานที่จอดรถด้านหน้าจะเป็นโซนของร้านอาหารและเครื่องดื่ม ชื่อว่า "ชมเฌยคาเฟ่" ก็จะมีเครื่องดื่มหลากหลายเมนูให้เลือก ราคาเครื่องดื่มจะอยู่ที่ประมาณ 60-90 บาท แล้วแต่เมนูค่ะ เมื่อนั่งพักทานอะไรลองท้องกันแล้วก็เดินเข้ามาเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ กันได้เลยค่ะ โซนถ่ายรูปของที่นี่จะมีให้เลือกเยอะแยะเลย ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ให้เราเดินถ่ายรูปกันได้เพลิน ๆ เลยค่ะ โดยโซนแรก ๆ จะเป็นการจำลองร้านขายของชำ ร้านถ่ายรูป ร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อ สมัยโบราณ โซนปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์เก่า มีพร๊อพเก๋ ๆ เช่น รถสามล้อ รถม้า มาจัดวางไว้อย่างสวยงาม แถมยังมีการจำลองสถานีรถไฟสมัยโบราณไว้ให้ชมด้วยค่ะ ใกล้กับสถานีรถไฟจะเจอกับโซนอาคารขนาดใหญ่ผนังเป็นกำแพงอิฐเหมือนเป็นโกดังเก็บของสมัยโบราณ แล้วยังมีอีกหลาย ๆ มุมให้ถ่ายรูปอีกมากมาย อยากให้ทุกคนมาลองแวะชมกันนะคะ ที่ตั้ง : 68 หมู่ 4 ซอยกำนันทินกร ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โทรศัพท์ : 089-415-2038 Facebook ภาพประกอบโดยผู้เขียน
G r e e n H e a r t • 4 มิ.ย. 63
อ่าน
ซีรีส์จีน The Letter from the Cloud กลรักลิขิตเมฆา ที่ TrueID
ได้เวลามาร่วมไขปริศนาลึกลับไปกับพวกเขาทั้ง 4 คนกับ 4 นักแสดง "เซี่ยปินปิน", "อู๋เจียอี๋", "ฟูจิง" และ "จางซื่อฟาน" กับซีรีส์โรแมนติกสืบสวนสอบสวน "The Letter from the Cloud กลรักลิขิตเมฆา" จากวิวาห์กำมะลอกลายเป็นบ่วงปมการสืบที่เข้มข้นและคาดเดาไม่ได้ ติดตามรับชมได้ทุก ๆ วันพฤหัสบดี สัปดาห์ละ 5 ตอนใหม่ ในรูปแบบซับไทยและพากย์ไทย เริ่ม 16 มีนาคมนี้ ที่ทรูไอดี
เรื่องย่อละคร • 14 มี.ค. 66
อ่าน
football in memory ฟุตบอลในความทรงจำ
"พ่อ แม่ พาผมไปส่งที่สนามฟุตบอลหน่อย" เป็นคำพูดในวัยเด็ก ช่วงสมัยอนุบาลที่ผมพยามพูดซ้ำ ๆ ขอให้พ่อแม่พาผมไปส่งที่สนามบอลจนเขายอมขับรถเพื่อที่จะพาผมไปส่งที่สนามบอลเมื่อถึงสนามบอลก็เจอเพื่อน ๆ ที่รอเล่นฟุตบอลด้วยกันอยู่ ถึงช่วงนั้นจะมีฝนตกลงมาเราก็เล่นมันด้วยความสนุกสนานและมีความสุขมากแต่หลังจากนั้นทุกคนก็โตขึ้นและแยกย้ายกันไปจนไม่ได้เล่นฟุตบอลกันอีกเลย จนผมได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมก็ได้มีชมรมฟุตบอลเปิดคัดเลือกนักกีฬาฟุตบอลเพื่อเข้าฝึกซ้อมและต้องอยู่โรงเรียนประจำผมได้ชวนเพื่อน ๆ ไปคัดกีฬาฟุตบอลด้วยกันหลังจากคัดเสร็จแล้วผมก็ได้ผ่านเข้ารอบได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนตอนนั้นผมมีความสุขมาก ๆ และผมก็ได้เข้าพักวันแรกเริ่มไปซ้อมฟุตบอลกับเพื่อน ๆ และจะมีรุ่นพี่ที่เข้ามาก่อนคอยช่วยฝึกซ้อม การซ้อมฟุตบอลแบบจริง ๆ จัง ๆ ผมรู้สึกเหนื่อยและท้อมากแต่ก็ต้องอดทนเพื่อกีฬาที่เราชอบ เมื่อผมฝึกซ้อมแล้วร่างกายพร้อมก็มีรายการแข่งขันรายการแรก ผมได้เป็นตัวสำรองตอนนั้นรู้สึกน้อยใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ผมต้องกลับมาฝึกซ้อมให้มากกว่าเดิมเพื่อพัฒนาตัวเองให้ได้ลงแข่งเป็นตัวจริงให้ได้ เมื่อผมขึ้นมอปลายก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแล้วต่อมาก็มีรายการใหญ่ระดับประเทศผมได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้และผมก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งแต่ผลที่ออกมาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่เราแพ้ให้กลับทีมที่เขามีระบบที่ดีกว่า หลังจากนั้นผมและเพื่อน ๆ ก็ได้กลับโรงเรียนและแยกย้ายกันไปจนผมไม่ได้เล่นบอลอีกเลยเพราะต้องเตรียมตัวเข้าเรียนมหาลัย ในช่วงที่ผมเข้าเรียนมหาลัยเราก็มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลอีกครั้ง เหมือนได้เห็นภาพสะท้อนความทรงจำในวัยเด็กของผมที่ได้เล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ผมนึกถึงวัยเด็กของผมและทำให้ผมแอบยิ้มอยู่ในใจในครีเอเตอร์ อรรถพร บุญรักษ์ ภาพถ่ายจาก กุลธิดา วุ่นดี ภาพถ่ายทั้งหมดได้รับอนุญาตจากเพื่อนๆแล้ว ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !
อรรถพร • 3 ต.ค. 67
อ่าน
ความทรงจำครั้งสุดท้าย!! คริส-สิงโต น้ำตาท่วม ใน Sotus The Memories
ครบทุกรสทุกอารมณ์ ทั้งสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ ประทับใจ และซึ้งใจสุดๆ จนน้ำตาท่วมเวที กับงานยิ่งใหญ่ OISHI Green Tea presents SOTUS THE MEMORIES LIVE ON STAGE จัดโดย “จีเอ็มเอ็มทีวี” ที่ชวนแฟนๆ มาร่วมสร้างประสบการณ์ครั้งสุดท้ายพร้อมกัน เพราะทุกภาพคือความทรงจำ ทุกฉากคือความประทับใจ กับโชว์สุดพิเศษ จัดเต็มทั้งร้องและเต้น บนเวทีแสงสีเสียงสุดอลังการ นำทีมโดยคู่จิ้นสุดปัง “คริส-พีรวัส, สิงโต-ปราชญา” พร้อมทีมนักแสดงสุดฮอต “ออฟ-จุมพล, นิว-ฐิติภูมิ, กันสมาย-ชนกันต์, อู๋จุน-กร,เฟียต-พัทธดนย์, กาย-ศิวกร, น้ำมนต์-กฤตนัย, นีร สุวรรณมาศ, ฟลุค-ธีรภัทร, แจน-พลอยชมพู, วาวา-มริภา, ปุยเมฆ-นภสร, ไอซ์-อิทธิกร, โอ๊ต-ณัฏฐวรันธร, ปริ้น-นราดล” และนักร้องรับเชิญ “แอมป์-ภูริกูลกฤษฏ์, กัน-อชิรวิทย์” ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี บรรยากาศก่อนงานเริ่มเต็มไปด้วยความสนุกสนานคึกคัก แฟนๆ มาร่วมเดิน “SOTUS THE MEMORIES MARKET” อุดหนุนสินค้า SOTUS Official Merchandise โดยเฉพาะเมนูพิเศษ “ข้าวเหนียว-หมูปิ้ง-นมชมพู” จากพ่อค้าสุดแซ่บ “กัน-อรรถพันธ์, ชิม่อน-วชิรวิชญ์, ซิง-หฤษฎ์, เอิร์ท-พิรพัฒน์, ม่อน-ธนัชชัย ฯลฯ” และร้านค้าเหล่าศิลปินดาราดัง “ลี-ฐานัฐพ์, พลัสเตอร์-พรพิพัฒน์, ท็อปแท็ป-จิรกิตติ์, อาร์ม-วีรยุทธ, ไวท์-ณวัชร์, เต-ตะวัน ฯลฯ” เปิดงานด้วยภาพรวบรวมความทรงจำจาก “SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง” และ “SOTUS S The Series” ทั้ง 2 ภาค ตามด้วยเมดเล่ย์เพลง “ทุ้มอยู่ในใจ, บูมเมอแรง, อยากร้องดังดัง, แตกต่างเหมือนกัน, ล้มลุกคลุกคลาน” จาก “คริส, สิงโต, ออฟ, นิว, กันสมาย, อู๋จุน, เฟียต, กาย, น้ำมนต์, ไอซ์, โอ๊ต, ปริ๊น, แจน, วาวา,นีร, ปุยเมฆ” จากนั้นพูดถึงการมารวมตัวกันในวันนี้ เพื่อขอบคุณแฟนคลับ และอยากให้บันทึกความทรงจำร่วมกัน ต่อด้วยการรื้อฟื้นความทรงจำระหว่างรุ่นพี่-รุ่นน้อง ที่ยกมาเป็นฉากๆ จัดให้ดูสดๆ กันบนเวที เริ่มจากฉากกิจกรรมรับน้อง “คริส” นำทีมรุ่นพี่ออกมาว้ากรุ่นน้อง ได้ยินเสียงแฟนๆ ตะโกน “ทราบ” ดังลั่น ต่อด้วย “คริส, สิงโต, ออฟ, กันสมาย, นิว, อู๋จุน, ไอซ์, โอ๊ต, ปริ๊น” ร่วมกันโชว์เพลง “ผงาดง้ำค้ำโลก” ตามด้วยฉากสแตนเชียร์ “สิงโต” นำทีมรุ่นน้องบูม Engineer ดังกระหึ่ม ก่อนเข้าเพลง “โซซัดโซเซ” จาก “คริส, สิงโต, ออฟ,กันสมาย, นิว, อู๋จุน, ไอซ์, โอ๊ต, ปริ๊น, แจน, วาวา” มาถึงฉากสนามบอล “คริส” วิ่งตากฝน “สิงโต” ขี่มอเตอร์ไซต์มาอย่างเท่ โชว์เพลง “ก่อนฤดูฝน” งานนี้เสียงฟ้าร้องฟ้าแล่บมาเต็ม แถมมีฝนตกจริงๆ บนเวที ทำคนดูอินนึกว่านั่งตากฝนอยู่ด้วย ต่อด้วยฉากประกวดดาวเดือน กับเพลง “ค้นใจ” จาก “สิงโต” ที่พอไฟดับแฟนๆ ก็ช่วยร้องและเปิดไฟจากมือถือเหมือนในซีรีส์ และฉากริมชายหาดแจกเกียร์ “คริส, สิงโต, ออฟ, กันสมาย, นิว, อู๋จุน, ไอซ์, โอ๊ต, ปริ๊น, แจน, วาวา” ร่วมร้องเพลง “จับมือกันไว้” จากนั้นยาวๆ ไปกับความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบที่เกิดชึ้นใน SOTUS ที่ทำเอาแฟนๆ นั่งไม่ติดกรี๊ดกันดังลั่น เริ่มด้วย “นิว-นีร” เพลง “ไม่พูดก็เข้าใจ” และ “กาย-น้ำมนต์”เพลง “ระหว่างเราสองคน” ต่อด้วย “อู๋จุน-เฟียต” เพลง “จับ” และ “กันสมาย-ฟลุค” เพลง “เล่าสู่กันฟัง” ที่แฟนๆ กรี๊ดเสียงดังสนั่น เพราะต่างคิดถึงคู่ #เปรมวาด ปิดด้วยท้ายด้วยคู่“คริส-สิงโต” แบบจุใจกับเพลง “กะทันหัน, เธอทำให้ได้รู้, ดาว, YOU YOU YOU” และ “คำตอบอยู่ที่หัวใจ” กับฉากในตำนานบนสะพานพระราม 8 ที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของทุกคน มาถึงช่วงสนุกๆ จากแก๊ง SOTUS “คริส, สิงโต, ออฟ, กันสมาย, นิว, อู๋จุน, เฟียต, กาย, น้ำมนต์” โชว์เพลง “อยากโดนเป็นเจ้าของ, IF YOU DO, รักจับใจ” งานนี้หนุ่มๆ โชว์สกิลแดนซ์กันกระจาย ทำเอาแฟนๆ ตื่นตาตื่นใจกรี๊ดจนสุดเสียง จากนั้นจับสลากผู้โชคดีไปญี่ปุ่นกับ OISHI Green Tea และแจกสแตนดี้นักแสดงให้ผู้โชคดีที่ได้ลักกี้การ์ด 10 รางวัล มาถึงช่วงส่งท้ายอำลา SOTUS กับนักร้องเชิญพิเศษ “แอมป์-กันอชิ” โชว์เพลง “ความลับในใจ” จากนั้นทั้งหมดร่วมร้องเพลง “จะได้ไม่ลืมกัน” ตามด้วยโปรเจคขอบคุณจากแฟนๆ ที่ทำมาเซอร์ไพร์ส ทำเอาน้ำตาซึม ต่อด้วยการพูดเปิดใจของนักแสดงทุกคนถึงความรู้สึกต่างๆ ที่ได้มาเป็นครอบครัว SOTUS แต่ละคนบอกว่าจะไม่ร้องไห้ แต่พอได้บอกเล่าความรู้สึกออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ ส่งท้ายกับเพลง “ขอบคุณที่รักกัน” จากนักแสดงทั้งหมดบนเวที และนักแสดงที่มาดูในวันนี้ พร้อมแฟนๆ ที่ร่วมกันร้องเป็นเพลงสุดท้าย ปิดฉากประสบการณ์ครั้งสุดท้ายด้วยความประทับใจ “คริส-สิงโต” เป็นตัวแทนพูดถึงความรู้สึกว่า “ขอบคุณทุกคนจากใจจริงๆ ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวมาเป็นก้องภพ-อาทิตย์ เป็นครอบครัวโซตัส คำว่าเมมโมรี่แปลว่าความทรงจำฉะนั้นจะไม่จางหายไป ครอบครัวเราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขอให้เป็นกำลังใจอย่างนี้ตลอดไป ขอบคุณอีกครั้งครับไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ ขอบคุณทีมงาน “จีเอ็มเอ็มทีวี” ทุกคนที่เป็นครอบครัวของเราทุกคนด้วยครับ งานนี้พวกเราเหนื่อยมากจริงๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย แต่กำลังใจของเราอยู่ตรงนี้แล้ว ดีใจที่พวกเรารักกัน คุณคือความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเรา พวกเราจะจำพวกคุณไปตลอดกาลครับ” อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID
ข่าวบันเทิง • 8 พ.ค. 61
อ่าน
▶️คลิป : Love Letter ทำเองได้ง่ายจัง
ใกล้วันวาเลนไทน์ เข้ามาทุกที บางทีคำพูดดีๆ ข้อความน่ารักๆ กลอนซึ้งๆ เขียนด้วยลายมือของเราเพื่อบอกความในใจกับใครสักคน ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็ก เล็ก แต่เต็มเปี่ยมด้วยใจของผู้ให้นะจ๊ะ มีความสุขกันทุกคนคะHappy Valentine's Day แม่พันวา
แม่พันวาSunnyKwan • 3 ก.พ. 64
อ่าน
The Memory of Lensation Brightvc โปรเจคสุดพิเศษที่สร้างจากความทรงจำตลอดเวลาที่ผ่านมาของ ไบร์ท-วชิรวิชญ์
การเดินทางตลอด 8 ปีในวงการบันเทิงของ ไบร์ท-วชิรวิชญ์ มีผลงานให้ติดตามเเละเห็นหน้าเห็นตาในโทรทัศน์มากมาย แม้ผลงานที่ผ่านมาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่ของแฟนคลับ แต่ในปีนี้ปี 63 ถือได้ว่าเป็นปีที่แจ้งเกิดไบร์ทในวงการนี้เป็นอย่างมากเกิดปรากฎการที่ไม่เคยเกิดขึ้นจนดังไปถึงต่างประเทศทำให้ไบร์ทมีฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ไบร์ทไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานที่เขาพยายามอดทนและต่อสู้กับงานในวงการนี้เท่านั้นเขากำลังจะประสบความสำเร็จในด้านการเรียนที่เจ้าตัวเผยว่ากำลังจะจบการศึกษาในปีที่ 3 ซึ่งหลักสูตรเรียน 4 ปี เป็นเด็กทุนที่ต้องรักษาเกรดให้อยู่ในระดับที่คณะกำหนด ต้องเก่งและแบ่งเวลาเก่งแค่ไหนถึงสามารถทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันได้ ไหนจะต้องเรียน ทำงาน เรียนเสริมบุคคลิกภาพ เรียนภาษาเพิ่ม เรียนพัฒนาตัวเอง เรียนร้องเพลงต่างๆเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด ความเก่งนี้ได้มาจากแม่ล้วนๆ แม่ไบร์ทคงภูมิใจในตัวลูกชายที่เป็นเด็กแสบที่ดื้อมากคนนี้ที่ประสบความสำเร็จในวัยแค่นี้ และไบร์ทยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับแฟนคลับในหลายๆเรื่องที่สามารถเอาแบบอย่างของไบร์ทมาเป็นแรงผลักดันให้มีความพยายามมากกว่าที่พยายามอยู่ ณ ตอนนี้ ^^"การรอคอยที่แสนยาวนาน การเดินทางที่แสนยาวไกล อาจเจ็บช้ำ อาจเดียวดาย เพื่อรอวันนี้…..ที่มีเธอ แค่เธอเท่านั้น…..." เหมือน 8 ปีในวงการบันเทิงที่ไบร์ทเดินทางคนเดียวเพื่อรอให้ใครคนหนึ่งเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ไบร์ทขาดและเผยความเป็นไบร์ทที่มีเผยออกมาให้ใครหลายๆคนได้เห็นมุมน่ารักปุ้กปิ้ก ทำให้เป็นที่รักของใครหลายๆคนในหมู่แฟนคลับของไบร์ท ซึ่งคนๆนั้นที่รอคอยมาเพื่อเป็นส่วนเติมเต็มเป็นที่พักพิงให้กันคนนั้นคือ วิน -เมธวิน ที่เป็นคู่หูคู่ฮ่าชวนกันเป็นเด็กแสบ B1B2 ของแม่อี๊ด และวันนี้ไบร์ทมีน้องวินที่เดินอยู่เคียงข้างและจับมืออยู่คู่กับไบร์ทจับมือกันผ่านเรื่องราวต่างๆไปด้วยกัน คอยอยู่เป็นกำลังใจ เป็นเซฟโซนของกันและกัน เป็นพาวเวอร์แบงค์ที่ชาร์ตพลังให้มีแรงสู้ในการทำงาน เป็นแรงซัพพอร์ตให้กันและกันคอยเรียนรู้ พัฒนาตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้น วันเกิดปีนี้เป็นปีที่พิเศษงานนี้เหล่าแฟนๆจัดเต็ม มอบของขวัญวันเกิดให้ไบร์ทกันตลอดทั้งเดือนเลย โดยได้จัดงาน exhibition แสดงรูปภาพของไบร์ท งานนี้หนุ่มไบร์ทเองก็ปลื้มสุดๆ ได้ไปร่วมงานพร้อมควงแขนคุณแม่ไปดูรูปด้วยกัน นิทรรศการ The Memory of Lensation Bright Photo Exhibition “สื่อถึงความทรงจำที่เราสัมผัสได้ผ่านภาพถ่ายจากเลนส์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ เมื่อเรากลับมามองภาพถ่าเหล่านั้นความทรงจำในวันนั้นจะย้อนกลับคืนมาให้เราจดจำได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยรู้สึกอย่างไร” เป็นโปรเจคที่ดีและทำให้รู้สึกว่า Allbrightvc อยู่ข้างๆไบร์ทจากวันแรกถึงวันนี้แม้มีเรื่องต่างๆเข้ามา Allbrightvc ก็อยู่เคียงข้างไบร์ทซัพพอร์ตไบร์ทแบบนี้ตลอด #MakeABrightWish2020 ในงานมีรูปของไบร์ทตลอด8 ปีในวงการบันเทิงแต่จะมีรูปที่พิเศษสุดที่ถ่ายโดนไบร์ทที่ไบร์ทไม่เคยเผยที่ไหนมาก่อน และมีรูปหนึ่งที่เห็นแล้วน้ำตาแตก นั้นคือ รูปที่ไบร์ทแอบถ่ายน้องวินกับแม่อี๊ดที่กำลังยืนคุยกันอย่างสนุก จากด้านหลังทำให้รู้สึกถึงภาพนั้นว่า ไบร์ทคนนี้ทำไมเขาถึงอบอุ่นเขาคงรักสองคนนี้มากเหมือนแม่อี๊ดกับน้องวินเป็นคนสำคัญของไบร์ทมากๆเป็นทั้งความอบอุน ความสบายใจ เป็นเซฟโซนที่ดีของไบร์ท และไบร์ทจะเป็นคนดูแลคอยเทคแคร์สองคนนี้ให้ดีเท่าที่เขาดูแลไบร์ทเอง แม่อี๊ดและน้องวินถือเป็นคนในครอบครัวของเขาไปแล้ว ไบร์ทคนนี้โคตรอบอุ่นมากๆเลย….แม่อี๊ดเป็นทุกอย่างให้ทั้งไบร์ทและน้องวินจริงๆ รักแม่อี๊ดนะคะ^^ ทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นกับไบร์ทคนที่อยู่ข้างไบร์ทให้กำลังใจไบร์ทให้ผ่านมาได้ก็สองคนนี้ที่คอยจับมือดูแลไบร์ทให้ผ่านเรื่องต่างๆได้ ไบร์ทเคยบอกในคอนมีตคั่นกูว่า...ในแต่ละวันที่ผ่านมาได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ คำพูดที่ไบร์ทบอกไปนั้นทำให้น้องวินน้ำตาแตกและทำให้รู้เลยว่าหากคนใดคนหนึ่งเจ็บอีกคนก็จะเจ็บไปด้วยเช่นกัน และคนที่อยู่ข้างไบร์ทคอยให้กำลังใจไบร์ทคอยเป็นพลังบวกคอยสร้างรอยยิ้มให้ไบร์ทยิ้มได้คนๆนั้นก็คือน้องวิน และคนที่คอยดูแลไบร์ทคอยอัดยาให้ไบร์ทหายป่วยไวๆก็คือแม่อี๊ดสุดที่รักของสองเเสบนี้จะอีกกี่ปีในวงการนี้ขอแค่ ไบร์ทวิน จับมือเคียงข้างกันเดินไปด้วยกันเป็นส่วนเติมเต็มให้กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ..... "จำไม่ได้แล้วว่าตัวฉันไม่มีเธอนั้นเป็นยังไงลืมหมดแล้วว่าตอนนั้นแต่ละวันมันเป็นเช่นไรก็ฉันมีเธอมานานเกินไปคงไม่ชินถ้าเธอจะต้องหายไปก็ขอให้นานเท่าไร เรายังคู่กัน"สามารถไปฟังเพลง ยังคู่กัน คนนั้นต้องเป็นเธอ เพลงเต็มได้ทาง Youtube : GMMTV RECORDSขอบคุณภาพประกอบ IG : bbrightvcIG : winmetawinTW :@allbrightvc เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
rainbowsifaa • 22 ธ.ค. 63
อ่าน
รีวิวหนังสือ วิถีผู้ชนะฉบับคนเก่งแบบเป็ด (How to be better at (almost) everything)
สมัยก่อนเรามักจะได้รับการสอนมาว่าจงอย่าเก่งแบบเป็ด ทำอะไรให้ชำนาญแล้วให้มันโดดเด่นด้านเดียวไปเลย จะได้เป็นคนที่มีคุณค่า ใครก็อยากจ้างเราไปทำงาน เพราะเรามีความเชี่ยวชาญที่คนอื่นยากที่จะมี ปัจจุบันนี้การสอนถูกปรับเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนเข้าถึงการศึกษาง่ายขึ้น ความชำนาญที่เรามี คนอื่นเขาก็ทำได้ ทำเป็น มีคุณภาพเหมือนกัน ดังนั้น เราจึงต้องเป็นเป็ดที่ทำได้หลายอย่าง สิ่งที่ทำก็ต้องมีคุณภาพอย่างชำนาญด้วย นำความชำนาญดังกล่าวมาบูรณาการในโลกการทำงานของเรา จะได้มีทางออกของปัญหาที่สร้างสรรค์จากความชำนาญสาขาอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง Pat Flynn ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จะมาเปิดโลกทัศน์ของคนที่เก่งเยี่ยงเป็ด เรียนรู้เร็ว และเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ (อย่างที่เกิดการระบาดโควิด 19 ซึ่งการทำงานเป็นหลายอย่างคือทางออก) แปลโดย ปฏิภาณ กุลวพันธ์ ความรู้ความประทับใจที่ได้ในมุมมองของครีเอเตอร์ ได้เรียนรู้ว่าคนเก่งแบบเป็ดมักไม่น่าเบื่อ เพราะเป็นคนมีทักษะที่หลากหลาย (มีของ) สิ่งนี้เป็นผลดีต่อชีวิต เพราะประยุกต์ใช้ทักษะจากศาสตร์ต่างๆได้หลากหลายมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เรียนรู้ว่า 5 กฎเหล็กเปลี่ยนคุณเป็นสุดยอดคนเก่งกว้าง1.เรียนรู้ทักษะหลายด้านเพื่อใช้ร่วมกัน เก่งกว้างดีกว่าเก่งลึก2.จงเป็นคนเก่งลึกในระยะสั้น แล้วพัฒนาให้ได้ทักษะ 1-2 ด้านต่อครั้ง3.จำกัดความเก่งแต่ละด้านอยู่ที่ 80% ถ้ามากกว่านั้นจะกลายเป็นคนเก่งลึก ซึ่งมันก็ดี แต่เราจะเก่งเรื่องอื่นได้ยาก4.โฟกัสเฉพาะทักษะจำเป็นตามที่ตั้งเป้าไว้5.ฝึกฝนโดยเพิ่มระดับความยากทีละขั้น เพื่อที่เราจะได้เก่งขึ้นจริง ได้เรียนรู้ว่าการเรียนรู้ทักษะหลายด้านก็เหมือนกับแซนด์วิช แม้ส่วนประกอบจะไม่ได้มีอะไรที่พิเศษ แต่เมื่อทานรวมกันก็ให้รสชาติที่อร่อยได้ ทักษะก็เหมือนกัน ต้องสะสมมารวมกันแล้วประยุกต์ใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เรียนรู้ว่าการเป็นคนเก่งกว้าง เก่งหลายเรื่องมักใช้เวลามาก การบริหารเวลาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้การเสียสละอิสระบางส่วนก็เพื่อแลกกับพัฒนาการที่ดีในระยะยาว ได้เรียนรู้ว่าอย่ามัวฝึกในสิ่งที่ตัวเองแก่งอยู่แล้ว แต่หาวิธีกระตุ้นตัวเองให้ได้ใช้ความสามารถ หรือทำในสิ่งที่ยังไม่เก่งด้วย (ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเก่ง) เราจึงต้องหาทางเพิ่มความถี่ในการฝึกฝน เพิ่มระดับความยาก ผลักดันตัวเองโดยไม่เกินระดับความสามารถของตัวเอง ได้เรียนรู้ว่าทักษะในโลกนี้แบ่งเป็น 3 ประการ ทักษะพื้นฐาน คือทักษะที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้ไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหนก็ตาม ทักษะที่สนใจ คือทักษะที่เราชอบและอยากทำด้วยใจรัก ทักษะจำเป็น คือทักษะที่ใช้เพื่อเลี้ยงชีพจากความสนใจของเรา ทั้งสามทักษะนี้ถ้าหาจุดร่วมมาผสมผสานกันได้จะเป็นเรื่องที่ดี ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่คนเก่งกว้างต้องมีคือความมีระเบียบวินัยในการฝึกฝน มีสมาธิกับสิ่งสำคัญ มีเหตุผล ช่วยให้ความคิดของเรามีระเบียบ นอกจากนี้ยังต้องโน้มน้าวผู้คนเป็นเพื่อให้คนอื่นเห็นด้วยกับแนวทางของเรา ตัวเราเองก็ต้องมีความเชื่อที่จะนำแนวทางดังกล่าวเดินไปสู่เส้นทางที่ใช่ หากไร้ซึ่งความเชื่อจะยืนระยะอยู่ได้ไม่นาน ได้เรียนรู้ว่าเราไม่มีทางหาเวลาฝึกได้หากยังมีข้ออ้าง ทักษะหลายด้านต้องลงมือปฏิบัติจริงมากกว่าหาข้อมูลอ่านเอง ทั้งนี้ไม่มีใครฝึกฝนสิ่งต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์สมบูรณ์แบบ แต่ทุกคนก็ควรพยายามทำให้เต็มที่มากที่สุด ได้เรียนรู้ว่าความจริงแล้วความสุขกับความสำเร็จนั้นไปด้วยกันได้ น่าเสียดายที่หลายคนต้องสังเวยความสุขเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ นี่จึงเป็นเหตุผลให้คนเก่งกว้างกลายเป็นคนที่มีความสุขมากกว่า ได้เรียนรู้ว่าคนเก่งกว้างมีแนวโน้มจะอยากทำทุกๆอย่างให้เก่งขึ้น เพราะพวกเขาสนใจหรือเห็นประโยชน์จากสิ่งต่างๆรอบตัวไปหมด ในทางกลับกันคนเก่งลึกจะคอยเปรียบเทียบตัวเองกับผลลัพธ์อยู่เสมอ พวกเขาเอาความทุกข์มาเป็นส่วนหนึ่งของระบบพัฒนาตัวเอง แต่คนเก่งกว้างจะไม่มามัวนั่งกังวลกับผลลัพธ์ พวกเขามีความสุขกับการมีส่วนร่วมและพัฒนาตัวเองเมื่อทำสิ่งที่ดี ได้เรียนรู้ว่านักกีฬาต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์เพื่อจะได้เป็นคนเก่งมากๆในกีฬาชนิดนั้น บางครั้งอาจต้องแลกกับความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บ นี่คือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับการเป็นคนที่เก่งที่สุด ตรงกันข้าม คนเก่งกว้างจะไม่เจอปัญหาพวกนี้ พวกเขาไม่ได้เก่งที่สุดอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องเอาอะไรไปเสี่ยง ถ้าพวกเขาอยากเพิ่มความแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย พวกเขาก็จะไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ได้เรียนรู้ว่าเวลาเราตั้งใจพัฒนาทักษะสักอย่างหนึ่ง ต้องทำใจที่จะเสียทักษะด้านหนึ่งไปนิดหน่อย เพื่อแลกกับทักษะใหม่เข้ามา แต่ถ้าเราไม่ได้ปล่อยให้ทักษะที่มีลดลงตลอดไป เมื่อเรากลับมาพัฒนาทักษะนั้นอีกครั้ง เรามีสิทธิ์พัฒนามันได้ดีกว่าเดิม ได้เรียนรู้ว่าสมาธิช่วยให้เราฉลาด สมาธิช่วยให้เราสนใจกับสิ่งสำคัญได้ดีและยับยั้งความอยากได้ ช่วยให้เราไม่ทำเรื่องที่รุนแรงเพื่อสนองความอยากนั้น อีกทั้งสมาธิช่วยให้เราทำงานอย่างมีระเบียบวินัย ได้เรียนรู้ว่าข้อแตกต่างระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้ คือผู้ชนะจะสามารถบังคับตัวเองไปทำงาน ไปออกกำลังกายได้ ส่วนผู้แพ้จะผัดวันประกันพรุ่งล้มเลิกก่อนที่งานจะสำเร็จ ข้อแตกต่างส่วนหนึ่งเกิดจากระเบียบวินัยและสมาธิ และนี่คือสิ่งที่คนแบบเป็ดมักจะเป็นกันเพื่อที่จะเรียนรู้ในการมีความสามารถที่หลากหลายโดยไม่ยึดติดกับทักษะใดทักษะหนึ่ง เรียกว่าเป็นเซียนเป็ดเลยทีเดียว Patt Flynn เองก็เป็นนักธุรกิจด้วย การมีความสามารถหลายอย่างเพื่อปรับตัวตามสภาวะแวดล้อมก็เป็นสิ่งจำเป็น จะได้เอาตัวรอดในภาวะปัจจุบันได้ สุดท้ายนี้ Pat Flynn ก็ฝากเอาไว้ว่า”เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุดในโลกเพื่อประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่หนึ่ง เพื่อสร้างชื่อเสียง ฐานะ หรือเพื่อหาความหมายของชีวิต เราแค่ต้องเก่งให้มากพอในหลายทักษะ แล้วค่อยนำทักษะที่มีมาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง” เครดิตภาพภาพปก โดย wirestock จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย freepik จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย wayhomestudio จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิวหนังสือ THE COMPOUND EFFECT สะสมนิสัยเล็กๆ สร้างความสำเร็จให้ทวีคูณรีวิวหนังสือ ครีมชั้นบน โดย พลอย เช่รีวิวหนังสือ ชีวิตสู้กลับแบบนี้ต้องทำไงรีวิวหนังสือ ทำงานยังไงให้คุณมีมูลค่าสูงสุดในองค์กรรีวิวหนังสือ คนเก่งเขาก็ทำงานให้ง่ายแบบนี้แหละเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Watcharapon • 16 ธ.ค. 66
อ่าน
รีวิว Kamen Rider: Memory of Heroez
Kamen Rider: Memory of Heroez เป็นเกมล่าสุดของ Kamen Rider บนคอนโซล และเป็นเกมแรกบนคอนโซลที่ใช้ระบบ Hero Chain Action ผู้เล่นจะได้สะใจไปกับการใช้ท่าโจมตีต่าง ๆ จากร่างแต่ละร่างของ Kamen Riders ในการต่อสู้ ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีในการผจญภัยในเรื่องราวหลัก และเตรียมพบกับเรื่องราวใหม่แกะกล่องที่ไม่เหมือนใครและแตกต่างไปจากเดิม กราฟิก 3 มิติสวยงามKamen Rider: Memory of Heroez เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีกราฟิกสวยงามในระดับหนึ่ง โดยตัวเกมถูกทำออกมาเป็นกราฟิก 3 มิติสีสันสวยงาม แต่โทนสีจะไม่ได้สดใสเหมือนกับเกมการ์ตูนอื่น ๆ แต่จะเป็นสีโทนมืด เข้มพอสมควร แต่ตัวเกมจะไม่ได้มืดจนมองไม่เห็น เพราะเอฟเฟกต์ภายในเกมจะมีสีค่อนข้างสดซึ่งเป็นการตัดโทนสีที่ตัดกันพอสมควร ทำให้ภาพกราฟิกในเกมดูสวยงามในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ เรื่องราวที่น่าติดตามภายในเกมนี้เราจะได้ติดตาม Kamen Rider ในการออกสืบหาความลับและไขปริศนาที่เกิดขึ้นบนเกาะลึกลับที่มีชื่อว่า Sector City แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือเราจะได้พบเจอกับศัตรูหน้าเก่าจำนวนมากที่ถูกปลุกชีพขึ้นมาด้วยฝีมือของศัตรูนิรนาม แถมยังมี Foundation X เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เรื่องราวภายในเกมน่าติดตามเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามการปูเรื่องราวภายในเกมทำได้ค่อนข้างตื้นพอสมควร โดยประวัติที่เราพอจะทราบคือ Kamen Rider Double คือใคร แต่ Kamen Rider OOO , มอนสเตอร์กลุ่มต่างๆ มาจากไหน ทำให้ผู้เล่นที่ไม่เคยติดตาม Kamen Rider มาก่อนอาจจะงงได้ ระบบ Acceleratorsระบบที่จะเปิดกว้างให้ผู้เล่นปรับแต่ง Kamen Rider ของตนเองได้ โดย Accelerators นี้จะเปรียบเสมือนไอเทมชนิดหนึ่งที่จะทำให้ตัวละครของผู้เล่นแข็งแกร่งไปในรูปแบบที่ต้องการ เช่นโจมตีได้แรงขึ้น , มีพลังป้องกันมากขึ้น , เก็บโค้ดจากศัตรูได้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย โดย Accelerators จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนมองว่าทางผู้พัฒนาเกมเปิดกว้างให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งตัวละครของผู้เล่นในรูปแบบที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นได้ ถือว่าเป็นจุดดีมาก ๆ จุดหนึ่งในเกมนี้ การอัพสกิลKamen Rider แต่ละร่าง จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกอัปเกรดสกิลของ Kamen Rider ร่างที่ต้องการให้แข็งแกร่งขึ้นได้ โดยสกิลจะสามารถปลดล็อคได้เมื่ออัปเกรดเลเวลของตัวละครไปถึงที่กำหนด และเมื่อปลดล็อคแล้ว ผู้เล่นสามารถใช้โค้ดที่เก็บได้จากการออกผจญภัยมาอัปเกรดสกิลที่ต้องการได้ การต่อสู้ที่เข้าใจง่ายการต่อสู้ภายในเกมถูกออกแบบมาให้เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ (อาจเพราะต้องการเข้าถึงตลาดเด็กที่เป็นแฟนคลับของ Kamen Rider) โดยการโจมตีหลัก ๆ จะมีเพียง 2 แบบเท่านั้นนั่นคือโจมตีเบา และโจมตีหนัก ในขณะที่จะมีการโจมตีพิเศษด้วยการใช้สกิล และท่าไม้ตายอีกอย่างละ 1 แบบ โดยการโจมตีเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่ใช้อยู่ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าการต่อสู้ในเกมนี้ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ให้ความสะใจอยู่ไม่น้อยนอกจากนี้ยังมีรูปแบบการโจมตีพิเศษที่เรียกว่า Counter ซึ่งผู้เล่นสามารถทำได้หลังจากที่กดหลบหลีกการโจมตีของศัตรู และกดปุ่มวงกลมภายในเวลาที่กำหนด เราจะได้เห็นการ Counter เท่ ๆ อีกด้วย การแปลงร่างที่ทำได้หลากหลายรูปแบบจุดเด่นที่สุดของเกมนี้คงเป็นการเปลี่ยนฟอร์มของ Kamen Rider ที่สามารถเปลี่ยนได้แตกต่างกันไป โดยแต่ละรูปแบบก็จะมีการโจมตีที่แตกต่างกัน มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งผู้เล่นเลือกเปลี่ยนฟอร์มได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เขียนชอบมาก เพราะในการต่อสู้บางครั้งเราอาจจะไม่ได้เจอมอนสเตอร์ประเภทเดียว แปลว่าเราอาจจะต้องมีการเลือกฟอร์มของ Kamen Rider ให้เหมาะสมกับศัตรูที่กำลังต่อสู้ด้วย และการเปลี่ยนฟอร์มนี้ทำได้ตลอดเวลา ทำให้เกมมีการต่อสู้ที่ลื่นไหลเป็นอย่างมาก การต่อสู้กับบอสอีกหนึ่งจุดที่ผู้เขียนให้เป็นจุดเด่นของเกมเลยก็ว่าได้ นั่นคือการต่อสู้กับบอสที่ถูกทำออกมาได้ค่อนข้างดี โดยบอสแต่ละตัวจะมีการโจมตีที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นจะต้องศึกษาแพทเทิร์นการโจมตีของพวกมันให้ดีเพื่อเอาชนะให้ได้ อย่างไรก็ตามความหลากหลายในการโจมตีของพวกศัตรูเหล่านี้ ไม่ได้ยากจนเกินไปจนนึกอยากจะปาจอย แต่ก็มีความท้าทายในระดับที่กำลังพอดีครับ สรุปการรีวิวKamen Rider: Memory of Heroez เป็นอีกหนึ่งเกมที่ดี และจะดีมาก ๆ สำหรับแฟนซีรีส์ Kamen Rider (โดยเฉพาะ Kamen Rider Double, Kamen Rider OOO และ Kamen Rider Zero-One) แม้ว่าการปูเรื่องอาจจะไม่ได้ลึกมากนัก แต่เกมเพลย์ของเกมก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง อาจจะมีจุดขัดใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสในการเล่นเกมมากจนเกินไปเล่นเกม Kamen Rider: Memory of Heroezเครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน
TechSaturn • 4 พ.ย. 63
อ่าน
เจมส์มาร์ ประกบคู่ ฮัม อึนจอง ส่งความฟินผ่านภาพยนตร์ MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก
พร้อมตัดสายสะดือทำคลอด บริษัท เฟฮู อินฟินิตี้ จำกัดค่ายหนังน้องใหม่ แต่มากประสบการณ์ ได้ฤกษ์เปิดตัว “MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก”ภาพยนตร์รัก โรแมนติก ที่สร้างโดยฝีมือคนไทยแต่มีคุณภาพระดับอินเตอร์นำแสดงโดยนักแสดงซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย “เจมส์มาร์” (เจมส์ อัศรัสกร) มาประกบคู่กับนักร้อง นักแสดงซุปเปอร์สตาร์จากประเทศเกาหลี “ฮัม อึน-จอง” ที่หลายคนรู้จักในภาพศิลปินสาว หนึ่งในสมาชิกวง “T-ara”(ทีอาร่า)นอกจานนี้ยังมีนักแสดง “แม็ก- ณัฐวุฒิ เจนมานะ, เฟิร์น- พัสกร พลบูรณ์”มาช่วยสร้างสีสันให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ครบทุกอารมณ์ กำกับการแสดง“สุพจน์ คูณดี, มนัสนันท์ กุดหอม” สำหรับภาพยนตร์ “MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก”บอกเล่าเรื่องราวของ “ภัทร์” (เจมส์มาร์) โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะ ผู้ที่ชอบอยู่ในโลกของตัวเอง ซึ่งมีเพื่อนสนิท “พีท” (แม็ก) และ “แพรว” (เฟิร์น พัสกร) โลกของ ภัทร์ ได้เปลี่ยนไปเมื่อได้เจอกับ “มินจี” (ฮัม อึนจอง) เป็นผู้หญิงที่เก่ง มีความอ่อนโยน ทั้งคู่ได้ร่วมกันพัฒนาโปรแกรม เพื่อช่วยเหลือคนชราและใช้ฐานข้อมูลมาจาก Mind ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ ภัทร์ รักและหวงมากที่สุด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ เริ่มก่อตัวขึ้น ความทรงจำต่างๆ ที่ถูกบันทึกด้วยหัวใจของคนสองคน จนกระทั่งได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไป ความรักและความเข้าใจจะช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆ ไปได้หรือไม่ บทสรุปความรักของพวกเขาและเธอจะเป็นอย่างไรสุดท้ายแล้ว 1.44 พื้นที่นี้จะเพียงพอต่อความทรงจำของพวกเขาหรือไม่ ค้นหาคำตอบได้ใน MIND MEMORY 1.44 พื้นที่รัก วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ในโรงภาพยนตร์
ข่าวบันเทิง • 17 ม.ค. 60
อ่าน
รีวิว The Memories of Murder (2003) หนังสืบสวนสอบสวนสุดยอดผลงานของผู้กำกับบงจุนโฮอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด
The Memory Of Muderer (2003) เป็นผลงานของ บงจุนโฮ นำแสดงโดย ซอง คังโฮ เปรียบเสมือนผลงานแจ้งเกิดของซองคังโฮ ในวัยหนุ่มๆช่วงเริ่มต้นเข้าวงการแสดงและมีชื่อเสียงวัยหนุ่มๆเลย เป็นหนังระทึกขวัญสยองขวัญอีกเรื่องที่แฟนๆคอหนังสืบสวนสอบสวนสยองขวัญระทึกขวัญไม่ควรพลาดและเป็นต้นตำรับของหนังฆาตกรรมต่อเนื่องในเกาหลีใต้หลายๆเรื่องเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่อง The Memorior Of Murderer (2017) Old Boy (2013) เรื่องย่อ https://m.youtube.com/watch?v=tJsB01oCx3A สร้างจากเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงในประเทศเกาหลีใต้ในช่วงที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบปัญหา IMF หรือภาวะวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้นในวันที่ฝนตกและรายการวิทยุเล่นเพลงของ Sad Letter All In Our Brain ซึ่งนี้เป็นเหมือนสาสจ์ข้อความที่ผู้กำกับบงจุนโฮ ต้องการจะส่งให้คนร้ายโดยตรงเลย ความรู้สึกที่ดู https://m.youtube.com/watch?v=lfWIuzDYbSM หนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 12 นาที และขอบอกตรงๆว่าหนังสนุกมากๆ คุ้มค่าเวลาทุกวินาทีที่ดู และเสียดสีความจริงหลายๆอย่างในสังคมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ล้มเหลวของตำรวจ ความสิ้นหวังของผู้คนในสังคม ภาวะอดอยาก ยากจน และคนตกงานจนต้องออกมาประท้วง และจำนวนตำรวจมีไม่มากพอที่จะสืบคดีนี้แม้เป็นคดีดังที่ได้รับความสนใจและการจับตามองของสื่อเพราะต้องไปจัดการกับคนที่ประท้วงนายทุน ใน 40 นาทีแรก เราจะมองเห็นตำรวจวิ่งวุ่นกับการจับแพะ ยัดข้อหาใส่คนบริสุทธิ์ และซ้อมทุกคนที่จับตัวมาได้เพื่อให้รับสารภาพ ตำรวจทำทุกอย่างแม้แต่พึ่งไสยศาสตร์และจ่ายค่ายันต์ราคาแพงจริงๆ ก่อนที่ช่วงกลางๆจะเผยรูปคดี เผยความน่ากลัวของสภาพเหยื่อผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมต่อเนื่อง ก่อนจะนำไปสู่บทเฉลยทุกอย่างที่หลังจากดูหนังจบแล้ว ถึงกับต้องอุทานออกมาว่าโคตรพีค โคตรสุดยอด เรากำลังดูอะไรอยู่ ลายเส้นก็ยังถือว่าเป็นผลงานเจ๋งๆอีกเรื่องของผู้กำกับบยองจุนโฮ และสายตาการแสดงช่วงใกล้จบของนักแสดงซอง คังโฮ ที่รับบทเป็นตำรวจเจ้าของเคสคดีนี้ก็ทำออกมาได้สุดยอดแบบน่าขนลุกมากๆ ต้องขอชื่นชมเลย แสง สี เสียง เงา sound effect และการเลือกโลเคชันมองว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีพอสมควร ทั้งการเลือกทุ่งรวงข้าวสีเหลืองของชนบท การเลือกอุโมงค์ที่ใช้สำหรับการเดินในช่วงต้นเรื่องและช่วงท้ายเรื่อง หรือบรรยากาศที่ฝนตก เพลงที่เปิดขึ้นและใส่เข้ามาก็ตรงกับไทม์ไลน์เวลาของหนัง คิดว่าตัวหนังค่อนข้างให้ความ Masculinity พอสมควรเลยในการจับคนร้าย หรือวิ่งไล่ตามคนร้าย ที่มีการทำงานของตำรวจสองนายที่ตำรวจนายหนึ่งมองว่าการอัดผู้ต้องสงสัยเพื่อรับสารภาพเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนตำรวจอีกนายหนึ่งมองว่านี้ไม่ใช่วิธีการตามจับตัววคนร้ายได้ ก่อนที่ในตอนจบ ตำรวจทั้งสองนายจะค่อยๆเปลี่ยนไปและค่อยๆเปลี่ยนวิธีคิดในวิธีการทำงานของตัวเอง ในตอนจบของหนังบอกได้เลยว่าโคตรพีค ฉากที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือฉากที่ตำรวจทั้งสองนายจับผู้ต้องสงสัยที่ส่งจดหมายเข้าไปในรายการเพลงทางวิทยุหลายๆฉบับ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะปล่อยตัวเขาไปหรือกักขังเขาไว้ในฐานะของฆาตกรต่อเนื่อง แต่เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ บวกกับต้องรอการตรวจสอบจากประเทศสหรัฐอเมริกาอีก ในความรู้สึกบอกว่าใช่ หมอนี้แหละคนร้าย แต่ในสมองกลับบอกว่าไม่ หรือว่าจะไม่ใช่ และตำรวจนายหนึ่งถึงกับต้องยอมรับออกมากับตัวเองหลังจากมองตาคนที่ใส่กุญแจมืออยู่ตรงหน้าว่าดูไม่ออกวุ้ย ฉากนี้แหละที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจและบอกได้เลยว่าค่อนข้างน่าขนลุกเอามากๆ เอาจริงๆหนังเรื่องนี้สะท้อนความเจ็บปวดหลายๆอย่างของระบบสังคมมนุษย์อยู่นะ ทั้งวิกฤติ IMF ที่คนเจอยุคนั้นจนผู้คนต้องทำงานจนเป็นบ้าและมีสภาพจิตใจที่หดหู่สิ้นหวัง การเกณฑ์ตำรวจไปปราบปรามผู้คนที่ออกมาประท้วงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ค่าแรงโดนเอาเปรียบจากนายทุนจนคนไม่พอที่จะสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ตำรวจที่ทำงานแบบเอาหน้ากับสื่อและนักข่าว รวมถึงชั้นผู้ใหญ่ที่เข้ามาถ่ายรูปเพื่อเอาหน้ากับนักข่าวเท่านั้น หรือการทำงานแทบตายของตำรวจ แต่ก็ยังล้มเหลวในการตามจับฆาตกรต่อเนื่องคนนี้ ทั้งๆที่มันเป็นคดีที่น่ากลัวมากสุดๆคดีหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ หรือปัญหาเชิงโครงสร้างที่เรารู้สึกสิ้นหวังมากจริงๆแค่ได้มองผ่านผลงานของผู้กำกับบงจุนโฮเรื่องนี้ คะแนนรีวิว 10/10 เอาจริงๆ หลังดูจบ ผู้เขียนแอบสลัดสายตาของนักแสดงซงคังโฮไม่ได้เลย และถ้าใครยังติดใจในหนังและผลงานจากผู้กำกับบงจุนโฮ เรื่อง Memories of Murder ผู้เขียนขอแนะนำหนังแนวคล้ายๆกันที่สามารถดูได้ทางช่องทาง Netfliix เลย บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflix รีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ รีวิว Link : Eat Love Kill (2022) ซีรีส์แฟนตาซีที่ไว้ใจใครไม่ได้เลย 10 ซีรีส์/หนังโปรดของผู้เขียนที่สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix ปี 2022 รีวิว Hurt Like Hell เจ็บเจียนตาย (2022) ตีแผ่วงการมวยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย Youtube : SF Cinema รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 โดย Youtube : SF Cinema / 3 โดย SF Cinema / 4 โดย Netflix *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQ ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565
InfpT • 6 ส.ค. 65
อ่าน
เบลล่า เสิร์ฟความสุขส่งท้ายปีชวนแฟนคลับมีตติ้ง ในงาน Make a good memory with Bella
เป็นอีกหนึ่งงานดีๆ ที่นางเอกสาว เบลล่า-ราณี แคมเปญตั้งใจจัดขึ้นเพื่อมอบความสุขให้กับแฟนคลับส่งท้ายปีเก่าในกิจกรรม Make a good memory with Bella ที่จัดขึ้น ณ ร้านอาหาร Waterside เลียบทางด่วนรามอินทรา โดยคัดเลือกแฟนคลับผู้โชคดีเพียง 200 คน มาร่วมกิจกรรมสนุก สุข ซึ้ง กับเบลล่าอย่างใกล้ชิด บรรยากาศภายในงานเรียกว่าครื้นเครงเป็นอย่างมาก เพราะแค่ก้าวเท้าเข้างานมาเบลล่าก็ถูกแฟนคลับจัดหนัก วางแผนให้คุณพ่อและคุณแม่ ถือเค้กวันเกิดมาให้เป่าล่วงหน้า โดยมีแฟนคลับล้อมวงร้องเพลง Happy Birthday แบบอบอุ่นสุดๆ ทำเอาเบลล่าน้ำตาซึม ด้วยความซาบซึ้งใจ จากนั้นต่อด้วยกิจกรรมเล่นเกมส์สนุกๆ ร่วมกัน โดยให้แฟนคลับเขียนสิ่งที่อยากทำร่วมกับนางเอกสาวลงในกระดาษโน๊ตแล้วให้เบลล่าเลือกจับ แล้วสุ่มผู้โชคดี มาทำตามคำขอในกระดาษ ในคอนเซ็ปร่วมทุกข์ร่วมสุข ด้านสาวเบลล่าก็จัดเต็ม เสิร์ฟเลิฟไม่อั้น ทั้งร้องเพลง โอบ กอด หอม เล่นเอาแฟนคลับฟินกันถ้วนหน้า ปิดท้ายด้วยเพลงพิเศษที่สาวเบลล่าตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อแฟนคลับโดยเฉพาะ หนึ่งในไม่กี่คน เรียกว่าร้องเพลงไป น้ำตาก็ไหลไป ทำเอาแฟนคลับร้องไห้ตาม ตาบวมฉึ่งกันเป็นแถว ทีมข่าวบันเทิง truelife เก็บภาพบรรยากาศแห่งความสุขมาฝากแฟนๆ ให้ได้ดูกัน เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน dara.truelife.com
ข่าวบันเทิง • 21 ธ.ค. 58
ดูเพิ่มเติม